รถรับจ้างเที่ยวเปล่าอยู่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ให้บริการด้าน,รถรับจ้างกรุงเทพมหานคร,รถหกล้อรับจ้างย้ายบ้าน,บริการงานขนส่ง ,รับจัดส่งสินค้า รถรับจ้าง ขน ส่ง ยก ย้าย สิ่งของต่างๆ บริการด้วยความซื่อตรง
เราให้บริการ,รถรับจ้างกรุงเทพมหานคร ตลอด 24 ชั่วโมง
เพียงท่านคิดจะย้าย คิดถึงรถขนของคิดถึงเราทันที "สมาคมรถรับจ้างไทย" ,รถรับจ้างกรุงเทพมหานครด้วยราคายุติธรรม
ไม่แพงอย่างที่ท่านคิด เพียงท่านยกหูหาเราเท่านั้น
มีรถรับจ้างจังหวัดกรุงเทพมหานคร นัดล่วงหน้าราคาพิเศษ มีรถล่องทั่วไทย
ยินดีต้อนรับบริการรถรับจ้าง
ขนของ ย้ายบ้าน ขน ส่ง ยก ย้าย สิ่งของต่างๆ ราคาถูกมาก
มีรถบรรทุกประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร
รถบรรทุก |
บริการ รถรถจ้างกรุงเทพมหานคร รถรับจ้าง บริการขนย้าย 6 ล้อ 10 ล้อ ขนของ ขนส่ง ขนย้าย
สินค้าต่างๆ ทั่วประเทศ พนักงานยก รับงานขนย้าย ย้ายบ้าน ย้ายคอนโด ย้ายหอพัก
สำนักงาน ออฟฟิศ
บริการรถรับจ้างขนย้าย กรุงเทพมหานครไปทั่วไทย ท่านใดสนใจหรือมีงานเร่ง งานด่วน สามารถติดต่อเราได้ทันที บริการ รถรับจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง มีรถ 6 ล้อ บริการขนย้ายสินค้า พร้อม พนักงานยกของ
งานบูธสินค้า งานก่อสร้าง ย้ายบ้าน สำนักงาน โดยทีมงานมืออาชีพมีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ท่านใดสนใจสามารถติดต่อ ทีมงาน
สมาคมรถรับจ้างไทย บริการ รถรับจ้างกรุงเทพมหานคร
พร้อมทั้งเรายัง
บริการ,รถรับจ้างขนของย้ายบ้าน กรุงเทพมหานคร ,รถ 10 ล้อรับจ้าง ขนย้ายเพื่องานแสดงโชว์ ออกบูธ ตามสถานที่ต่างๆ
รับผิดชอบงานทุกงาน ตรงต่อเวลา ด้วยการให้บริการด้านรถรับจ้างนานนับสิบปี
เรารู้ความต้องการของท่าน เราตอบโจทย์ท่านได้ บริการด้านรถรับจ้าง ทั่วไทย
ต้องเราเท่านั้น
นอกจากนี้ บริการรถรับจ้าง
4 ล้อ 6 ล้อ 10 ล้อ กรุงเทพมหานคร ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งชิ้นงานเพื่อส่งลูกค้าหรือนำไปแสดงโชว์ในงานต่างๆ
ชิ้นงานบางชิ้นต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการกระทบกระแทก
ทีมงานคุณภาพของบริการรถรับจ้าง 4 ล้อ 6 ล้อ 10 ล้อ กรุงเทพมหานคร
จะช่วยในการขนส่งชิ้นงานเหล่านี้ให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย และรวดเร็วทันเวลา
สามารถเรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รถกระบะ |
จังหวัดกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีการใช้บริการรถบรรทุก 6 ล้อ และ 10 ล้อ ของเราด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าจังหวัดกรุงเทพมหานครนั้นเป็นพื้นที่ที่มีการขนส่งสินค้ามากที่สุดหนึ่งในอันดับต้นๆ ของประเทศไทย การบริการของเราจึงเน้นความเป็นระเบียบ และจำนวนการให้บริการทีเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะการขนย้ายสิ่งของหรือสินค้าในกรุงเทพมหานครนั้นจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านพื้นที่ และการขับขี่ถนนเป็นอย่างมาก เพราะการจราจรที่คับคั่ง และติดขัดนั้นเป็นอุปสรรคในการทำงาน เพราะฉะนั้นเราจึงได้ให้ความคัญเพื่อให้บริการแก่ท่านได้เป็นอย่างดีที่สุด
รถ6ล้อ |
รถรับจ้าง,รถหกล้อรับจ้าง,รถสิบล้อรับจ้าง,รับจ้างย้ายบ้านกรุงเทพมหานคร
บริการรถสิบล้อรับจ้างทั่วไปในจังหวัดกรุงเทพมหานคร
เรามีรถสิบล้อรับจ้างวิ่งงานในทั่วพื้นที่ทั้งในเขตจังหวัดเดียวกันเองและนอกพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียง
เรามีความเป็นมืออาชีพที่ให้บริการเนื่องจากเราให้บริการงานด้านการขนส่งทางบกและงานบริการขนส่งมาอย่างดี
จึงทำให้ทราบดีว่าลูกค้าของเรานั้นส่วนใหญ่ต้องการในลักษณะใด
และเรายังมีเจ้าหน้าที่มืออาชีพอีกด้วย
เรามีทีมงานที่มากประสบการณ์และแต่ละคนนั้นต่างได้รับการอบรมในงานด้านบริการมาเป็นอย่างดี
จึงไม่น่าเป็นห่วงในส่วนของงานบริการที่ลูกค้าจะได้รับจากเรา เราขอย้ำว่าเราสามารถให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยใจ
รถสิบล้อ |
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตพระนคร
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตดุสิต
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตหนองจอก
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางรัก
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางเขน
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางกะปิ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตปทุมวัน
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตพระโขนง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตมีนบุรี
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตลาดกระบัง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตยานนาวา
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตสัมพันธวงศ์
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตพญาไท
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตธนบุรี
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางกอกใหญ่
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตห้วยขวาง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตคลองสาน
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตตลิ่งชัน
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางกอกน้อย
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางขุนเทียน
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตภาษีเจริญ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตหนองแขม
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตราษฎร์บูรณะ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางพลัด
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตดินแดง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบึงกุ่ม
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตสาทร
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางซื่อ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตจตุจักร
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางคอแหลม
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตประเวศ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตคลองเตย
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตสวนหลวง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตจอมทอง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตดอนเมือง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตราชเทวี
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตลาดพร้าว
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตวัฒนา
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางแค
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตหลักสี่
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตสายไหม
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตคันนายาว
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตสะพานสูง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตวังทองหลาง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตคลองสามวา
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางนา
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตทวีวัฒนา
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตทุ่งครุ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า เขตบางบอน
บริการถรับจ้างทั่วไปในจังหวัดกรุงเทพมหานครในช่วงเวลาที่เร่งด่วนอาจจะมีผู้ต้องการใช้งานรถรับจ้างของเราเช่นกรณียกรถลากรถหรือบรรทุกสินค้างานจะใหญ่หรือเล็กนั้นเราก็สามารถช่วยท่านได้เพราะเรามีรถรับจ้างทั้งรถบรรททุกรถหกล้อรถสิบล้อเล็กใหญ่รถกระบะรถตู้รถลากรถเครนรถยกรถสไลด์แมคโครฯลฯเรามีให้บริการท่านทั้งสิ้นเพียงติดต่อเราเข้ามาเรายินดีให้บริการทุกท่านด้วยใจ
บริการรถหกล้อรับจ้างจังหวัดกรุงเทพมหานคร
บริการรถหกล้อรับจ้างของที่นี่ตอนนี้ผมเป็นลูกค้าประจำของเขาไปแล้วเพราะเขาไม่เคยทำให้งานของผมล่าช้าหรือผิดเวลาเลยบริการที่ดีโชเฟอร์หรือพนักงานขับรถมีฝีมือดีขับรถดีไม่ประมาท
ตรงต่อเวลามีความรับผิดชอบดีสภาพรถที่ดีไม่มีเหตุการณ์เสียกลางทาง
ราคาก็ถูกกว่าของที่อื่นอีกผมจึงถูกใจชอบใจมาก
ไม่เคยคิดว่ายังมีบริการที่แทคแคร์ลูกค้าได้ดีขนาดนี้อยู่อีก
ใครที่สนใจใช้บริการติดต่อได้ตลอดเวลานะ
บริการรถกระบะ4ล้อรับจ้างจังหวัดกรุงเทพมหานคร
บริการรถกระบะรับจ้างจังหวัดกรุงเทพนี้บริการดีและเขายังคิดค่าบริการแบบเป็นกันเองราคาค่าจ้างของเขาถูกกว่าของที่อื่นด้วยนะใครที่ยังไม่เคยใช้บริการก็ลองมาใช้บริการกันดูได้รับรองว่าคุณจะต้องชอบใจและจะใช้บริการของเขาอีกบริการที่เป็นกันเองและราคาก็ถูกแบบนี้ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆแล้วนะในสังคมสมัยนี้ในเมื่อเราเจอบริการดีๆแบบนี้ก็ควรช่วยกันแชร์บอกต่อๆกันเขาเปิดตลอด24ชั่วโมง
กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงและนครที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ การสื่อสาร และความเจริญของประเทศ เป็นเมืองที่มีชื่อยาวที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยา มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านและแบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี โดยกรุงเทพมหานครมีพื้นที่ทั้งหมด 1,568.737 ตารางกิโลเมตร มีประชากรตามทะเบียนราษฎรกว่าห้าล้านคน ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเอกนคร (primate city) จัด และศูนย์ชุมชนอื่นของประเทศไทยด้อยความสำคัญลง มีผู้กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็น "เอกนครที่สุดในโลก" เพราะมีประชากรมากกว่านครที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองถึงสี่สิบเท่า[4]
มหาวิทยาลัยลัฟเบอระ (Loughborough University) จัดกรุงเทพมหานครว่าเป็นนครโลกระดับแอลฟาลบ[5] กรุงเทพมหานครยังเป็นเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ของโลก[6] มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น พระบรมมหาราชวัง พระที่นั่งวิมานเมฆ และวัดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีแหล่งชอปปิ้งและค้าขายที่สำคัญมากมาย ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมาย โดยในปี พ.ศ. 2555 องค์กรการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) ได้จัดอันดับกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีคนเดินทางเข้า เป็นอันดับที่ 10 ของโลก และเป็นอันดับที่ 2 ของเอเซีย โดยมีคนเดินทางมากกว่า 26.5 ล้านคน[7] นอกจากนี้จากการจัดอันดับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด ประจำปี พ.ศ. 2557 กรุงเทพมหานคร มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของนักท่องเที่ยวถึง 16.42 ล้านดอลลาร์ เป็นอันดับที่สองของโลก รองจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรเท่านั้น[8]
กรุงเทพมหานครเป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศไทย มิได้มีสถานะเป็นจังหวัด คำว่า กรุงเทพมหานคร นั้นยังใช้เรียกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของกรุงเทพมหานครอีกด้วย กรุงเทพมหานครมีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรง แต่ ปัจจุบันผู้บริหารกรุงเทพมหานครมาจากการแต่งตั้ง
ในสมัยอาณาจักรอยุธยา กรุงเทพมหานครยังเป็นเพียงสถานีการค้าขนาดเล็กอยู่ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมา มีขนาดเพิ่มขึ้นและเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงสองแห่ง คือ กรุงธนบุรีในปี พ.ศ. 2311 และกรุงรัตนโกสินทร์ใน พ.ศ. 2325 กรุงเทพมหานครเป็นหัวใจของการทำให้ประเทศสยามทันสมัย และเป็นเวทีกลางของการต่อสู้ทางการเมืองของประเทศตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 20 นครเติบโตอย่างรวดเร็วและปัจจุบันมีผลกระทบสำคัญต่อการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา สื่อและสังคมสมัยใหม่ของไทย ในช่วงที่การลงทุนในเอเชียรุ่งเรือง ทำให้บรรษัทข้ามชาติจำนวนมากเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ภูมิภาคในกรุงเทพมหานคร ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นกำลังหลักทางการเงินและธุรกิจในภูมิภาค นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งและสาธารณสุขระหว่างประเทศ และกำลังเติบโตเป็นศูนย์กลางศิลปะ แฟชันและการบันเทิงในภูมิภาค อย่างไรก็ดี การเติบโตอย่างรวดเร็วของกรุงเทพมหานครขาดการวางผังเมือง ทำให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ ถนนที่จำกัดและการใช้รถส่วนบุคคลอย่างกว้างขวางส่งผลให้เกิดปัญหาจราจรแออัดเรื้อรัง
ประวัติ
พื้นที่บริเวณกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน เดิมเป็นที่ตั้งของเมืองธนบุรีศรีมหาสมุทร ชาวต่างชาติเรียกกันว่า "บางกอก" มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา[9] มีความสำคัญเนื่องจากเป็นเส้นทางออกสู่ทะเลและติดต่อค้าขายกับอาณาจักรต่าง ๆ เป็นเมืองหน้าด่านขนอน คอยดูแลเก็บภาษีกับเรือสินค้าทุกลำที่ผ่านเข้าออก ส่วนบริเวณปากน้ำตรงอ่าวไทย เรียกกันว่า "นิวอัมสเตอร์ดัม" มีชุมชนใหญ่และโกดังของชาวต่างประเทศไว้สำหรับพักสินค้า ปัจจุบันคือพื้นที่บริเวณอำเภอพระประแดง[9]
ที่มาของคำว่า "บางกอก" นั้น มีข้อสันนิษฐานว่าอาจมาจากการที่แม่น้ำเจ้าพระยาคดเคี้ยวไปมา บางแห่งมีสภาพเป็นเกาะเป็นโคก จึงเรียกกันว่า "บางเกาะ" หรือ "บางโคก" หรือไม่ก็เป็นเพราะบริเวณนี้มีต้นมะกอกอยู่มาก จึงเรียกว่า "บางมะกอก" โดยคำว่า "บางมะกอก" มาจากวัดอรุณ ซึ่งเป็นชื่อเดิมของวัดดังกล่าว และต่อมากร่อนคำลงจึงเหลือแต่คำว่าบางกอก[9][10]
ต่อมาเมื่อถึงคราวเสียกรุงศรีอยุธยาใน พ.ศ. 2310 หลังการกอบกู้อิสรภาพจากพม่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสถาปนาเมืองธนบุรีศรีมหาสมุทรให้เป็นราชธานีแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2313[9] ครั้นสิ้นรัชกาลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ขึ้นเสวยราชสมบัติ ทรงพระนามว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี มีพระราชดำริว่า ฟากตะวันออกของกรุงธนบุรีมีชัยภูมิดีกว่าตะวันตก เพราะมีลำน้ำเป็นขอบเขตอยู่กว่าครึ่ง หากข้าศึกยกมาติดถึงชานพระนคร ก็จะต่อสู้ป้องกันได้ง่ายกว่าอยู่ข้างตะวันตก จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นราชธานีแห่งใหม่ โดยสืบทอดศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมจากพระราชวังหลวงของกรุงศรีอยุธยา[9]
พระองค์มีพระบรมราชโองการให้พระยาธรรมาธิกรณ์กับพระยาวิจิตรนาวี เป็นแม่กองคุมช่างและไพร่ไปวัดกะที่ดินเพื่อสร้างพระนครใหม่ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2325 ทรงประกอบพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 6 ขึ้น 10 ค่ำ ย่ำรุ่งแล้ว 9 บาท (54 นาที) ปีขาล จ.ศ. 1144 จัตวาศก ตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เวลา 6.54 น.[9] และทรงประกอบพระราชพิธีปราบดาภิเษกในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2325[9]
ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนชื่อพระนครจาก บวรรัตนโกสินทร์ เป็น อมรรัตนโกสินทร์ และมีฐานะในการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็น จังหวัดพระนคร[11]
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ตัดถนนใหม่ขึ้น ทรงดำริให้ตัดถนนเจริญกรุง เป็นถนนเส้นแรกในกรุงเทพมหานคร ก่อสร้างเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404[12] และเปลี่ยนรูปแบบผังเมืองกรุงเทพมหานครเฉกเช่นอารยประเทศ เนื่องจากในสมัยนั้นสยามประเทศถูกคุกคามจากมหาอำนาจยุโรป และตรงจุดนี้เป็นหนึ่งในข้ออ้างที่มหาอำนาจนำมาใช้เพื่อแทรกแซงและคุกคามสยามประเทศ ภายหลัง ต่างชาติยุโรปเองได้ยอมรับกรุงเทพมหานครว่า เป็นหนึ่งในเมืองที่มีผังเมืองงดงามที่สุดในโลกในสมัยนั้น[13]
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2514 รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจรได้รวม จังหวัดพระนคร และ จังหวัดธนบุรี เข้าด้วยกันเป็น นครหลวงกรุงเทพธนบุรี[14] และภายหลังการปรับปรุงการปกครองใหม่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2515 จึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อเป็น กรุงเทพมหานคร แต่นิยมเรียกกันว่า กรุงเทพฯ[15]
ในปี พ.ศ. 2554 กรุงเทพมหานครได้รับการประกาศจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้เป็นเมืองหนังสือโลก หรือ World Book Capital ประจำปี พ.ศ. 2556[16] กรุงเทพมหานครติดอันดับที่ 102 เมืองน่าอยู่ของโลก จัดอันดับโดย The Economist Intelligence Unit[17]
ชื่อเมือง
คำว่า กรุงเทพมหานคร แปลว่า "พระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร" มาจากชื่อเต็มว่า กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์[18] มีความหมายว่า พระนครอันกว้างใหญ่ ดุจเทพนคร เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต เป็นมหานครที่ไม่มีใครรบชนะได้ มีความงามอันมั่นคง และเจริญยิ่ง เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการ น่ารื่นรมย์ยิ่ง มีพระราชนิเวศใหญ่โตมากมาย เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้ พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้[19]
โดยนามเดิมที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ พระราชทานในตอนแรกนั้น ใช้ชื่อว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา” ต่อมาในในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแก้นามพระนครเป็น “กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินท์ มหินทอยุธยา” จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนคำว่า บวร เป็น อมร เปลี่ยนคำว่า มหินทอยุธยา โดยวิธีการสนธิศัพท์เป็น มหินทรายุธยา และเติมสร้อยนามต่อ ทั้งเปลี่ยนการสะกดคำ สินท์ เป็น สินทร์ จนเป็นที่มาของชื่อเต็มของกรุงรัตนโกสินทร์ ข้างต้น[19]
ชื่อทางการของกรุงเทพมหานครเมื่อถอดเป็นอักษรโรมัน คือ "Krung Thep Maha Nakhon" แต่คนทั่วไปนิยมทับศัพท์ตามชื่อที่ผู้พูดภาษาอังกฤษเรียกเมืองนี้ว่า "Bangkok" ซึ่งมาจากชื่อเดิมของกรุงเทพมหานคร คือ "บางกอก"
กรุงเทพมหานครได้ชื่อว่าเมืองที่มีชื่อยาวที่สุดในโลกบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ก แปลความเป็นภาษาอังกฤษว่า "City of angels, great city of immortals, magnificent city of the nine gems, seat of the king, city of royal palaces, home of gods incarnate, erected by Visvakarman at Indra's behest."[20]
ชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร เมื่อถอดเป็นอักษรโรมัน คือ "Krungthepmahanakhon Amonrattanakosin Mahintharayutthaya Mahadilokphop Noppharatratchathaniburirom Udomratchaniwetmahasathan Amonphimanawatansathit Sakkathattiyawitsanukamprasit"[18] ซึ่งเป็นชื่อสถานที่ที่ยาวที่สุดในโลกและได้จดบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊ค[21] (169 ตัวอักษร) ยาวกว่าชื่อภูเขา "ตาอูมาตาวากาตังกีฮังกาโกอาอูอาอูโอตามาทีอาโปกาอีเวนูอากีตานาตาฮู" ("Taumatawhakatangihangakoauauotamateaturipukakapikimaungahoronukupokaiwhenuakitanatahu") (85 ตัวอักษร) ในนิวซีแลนด์ และชื่อทะเลสาบ "ชาร์ก็อกกาก็อกมานชาอ็อกกาก็อกเชาบูนากุนกามาอัก" ("Chargoggagoggmanchauggagoggchaubunagungamaugg") (45 ตัวอักษร) ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา
สัญลักษณ์ประจำกรุงเทพมหานคร
- คำขวัญของกรุงเทพมหานคร คือ กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัด วัง งามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย หลังกรุงเทพมหานครสรุปยอดคะแนนโหวตคำขวัญกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555[22]
- ตราของกรุงเทพมหานคร เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระหัตถ์ทรงสายฟ้า ตรานี้กรมศิลปากรออกแบบโดยอาศัยภาพเขียนฝีพระหัตถ์ของสมเด็จกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์เป็นต้นแบบ เริ่มใช้ในปี พ.ศ. 2516 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ฉบับที่ 60 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 (สมัยเมื่อยังเป็นจังหวัดพระนครนั้นใช้ตราพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเป็นตราประจำจังหวัด)
- ต้นไม้ประจำกรุงเทพมหานคร คือ ต้นไทรย้อยใบแหลม (Ficus benjamina)
- สัตว์น้ำประจำกรุงเทพมหานคร คือ ปลากระโห้ (Catlocarpio siamensis)
ภูมิศาสตร์
ภูมิประเทศ
กรุงเทพมหานครมีพื้นที่ 1,568.7 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 68 ของไทย เป็นเมืองที่กว้างที่สุดของโลก[23]เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 73 ของโลก[24] และเป็นเมืองหลวงที่มีพื้นที่กว้างเป็นอันดับ 4 ของภูมิภาคอาเซียน[25] ด้วยมีแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งทอดตัวยาว 372 กิโลเมตรพาดผ่านจังหวัด ทำให้กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงเป็นส่วนหนึ่งของที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่างของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก พื้นที่ส่วนมากในกรุงเทพมหานครเป็นที่ราบลุ่ม ตั้งอยู่บนพื้นที่บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ซึ่งเกิดจากตะกอนน้ำพา มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1.50-2 เมตร โดยมีความลาดเอียงจากทิศเหนือสู่อ่าวไทยทางทิศใต้ และเฉพาะลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่เกิน 1.50 เมตร ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้งในช่วงฤดูมรสุม
อาณาเขตติดต่อ
กรุงเทพมหานครมีอาณาเขตทางบกติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนอาณาเขตทางทะเลอ่าวไทยตอนใน ติดต่อจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ทิศเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี
- ทิศตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดฉะเชิงเทรา
- ทิศใต้ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดสมุทรปราการ และอ่าวไทย (ส่วนที่เป็นอ่าวไทยที่เป็นพื้นที่เดิมของจังหวัดธนบุรี ปัจจุบันคือเขตบางขุนเทียน ซึ่งมีอาณาเขตทางทะเลติดต่อทางอ่าวไทยกับจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ จุดที่อยู่ใต้สุดอยู่ที่ละติจูด 13 องศา 13 ลิปดา 00 ฟิลิปดาเหนือ, ลองจิจูด 100 องศา 27 ลิปดา 30 ฟิลิปดาตะวันออก ซึ่งเป็นการแบ่งตามพระราชบัญญัติกำหนดเขตจังหวัดในอ่าวไทยตอนใน พ.ศ. 2502)
- ทิศตะวันตก มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดนครปฐม
ภูมิอากาศ
กรุงเทพมหานครตั้งอยู่ในเขตร้อน มีภูมิอากาศร้อนแบบทุ่งหญ้าสะวันนา (Aw) ตามเกณฑ์การแบ่งภูมิอากาศโลกของวลาดีมีร์ เคิปเปิน[26] คือ อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนที่มีอุณหภูมิต่ำสุดสูงกว่า 18 องศาเซลเซียส มีอย่างน้อย 1 เดือนที่ปริมาณน้ำฝนต่ำกว่า 60 มิลลิเมตร และเดือนที่มีฝนตกน้อยที่สุด จะมีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า 100 ลบปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปี หารด้วย 25[ต้องการอ้างอิง]
อากาศของกรุงเทพมหานครได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (กลางเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (เดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนกุมภาพันธ์) [27] ทำให้มีฝนตกในช่วงบ่ายถึงค่ำอย่างสม่ำเสมอ และยังก่อให้เกิดร่องมรสุมพาดผ่านในเดือนพฤษภาคมกับเดือนกันยายน ซึ่งทำให้มีฝนตกหนักกว่าปกติ แต่ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ร่องมรสุมนี้จะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านทางเหนือ[28] ทำให้ฝนตกน้อยลง เดือนพฤศจิกายน เมื่อซีกโลกเหนือหันออกจากดวงอาทิตย์ หย่อมความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมา มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดเอาความแห้งแล้งและหนาวเย็นมา ทำให้อากาศเย็นและแห้ง ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆและฝนตกน้อย ครึ่งหลังของเดือนกุมภาพันธ์ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะอ่อนกำลังลง เป็นการเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูร้อน อากาศจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ กระแสลมในช่วงนี้จะพัดมาจากทางใต้ หรือตะวันออกเฉียงใต้ เรียกว่าลมตะเภา[29]
ในวันที่ 27 หรือ 28 เมษายนของทุกปี ดวงอาทิตย์จะส่องตั้งฉากกับกรุงเทพมหานครพอดี ทำให้ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ และมักคาดการณ์กันว่าเป็นวันที่อากาศร้อนที่สุดของปี [30] อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึกได้คือ 40.8 องศาเซลเซียส ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2526 [31] ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดที่เคยวัดได้คือ 9.9 องศาเซลเซียส ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2498 [32]
[ซ่อน]ข้อมูลภูมิอากาศของกรุงเทพมหานคร (2504-2533) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 32.0 (89.6) | 32.7 (90.9) | 33.7 (92.7) | 34.9 (94.8) | 34.0 (93.2) | 33.1 (91.6) | 32.7 (90.9) | 32.5 (90.5) | 32.3 (90.1) | 32.0 (89.6) | 31.6 (88.9) | 31.3 (88.3) | 32.7 (90.9) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 25.9 (78.6) | 27.4 (81.3) | 28.7 (83.7) | 29.7 (85.5) | 29.2 (84.6) | 28.7 (83.7) | 28.3 (82.9) | 28.1 (82.6) | 27.8 (82) | 27.6 (81.7) | 26.9 (80.4) | 25.6 (78.1) | 27.8 (82) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 21.0 (69.8) | 23.3 (73.9) | 24.9 (76.8) | 26.1 (79) | 25.6 (78.1) | 25.4 (77.7) | 25.0 (77) | 24.9 (76.8) | 24.6 (76.3) | 24.3 (75.7) | 23.1 (73.6) | 20.8 (69.4) | 24.1 (75.4) |
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) | 9.1 (0.358) | 29.9 (1.177) | 28.6 (1.126) | 64.7 (2.547) | 220.4 (8.677) | 149.3 (5.878) | 154.5 (6.083) | 196.7 (7.744) | 344.2 (13.551) | 241.6 (9.512) | 48.1 (1.894) | 9.7 (0.382) | 1,496.8 (58.929) |
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย (≥ 1 mm) | 1 | 3 | 3 | 6 | 16 | 16 | 18 | 20 | 21 | 17 | 6 | 1 | 128 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 272.8 | 251.4 | 269.7 | 258.0 | 217.0 | 177.0 | 170.5 | 161.2 | 156.0 | 198.4 | 234.0 | 263.5 | 2,629.5 |
แหล่งที่มา1: กรมอุตุนิยมวิทยา[33] | |||||||||||||
แหล่งที่มา 2: หอสังเกตการณ์ฮ่องกง[34] |
การบริหาร
ดูบทความหลักที่: กรุงเทพมหานคร (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)
ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528[35] กำหนดให้กรุงเทพมหานครมีสถานะเป็นนิติบุคคล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารงาน อยู่ในตำแหน่งตามวาระคราวละสี่ปี นับแต่วันเลือกตั้ง โดยมีฝ่ายนิติบัญญัติ คือสภากรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการเลือกตั้งจากชาวกรุงเทพมหานครเช่นกัน ดำเนินงานร่วมด้วย
พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน โดยดำรงตำแหน่งในวันทื่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559 รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 4 รายได้แก่ พล.อ.จีระศักดิ์ ชมประสพ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์
ดร. ภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ เป็นปลัดกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ นางสาวปราณี สัตยประกอบ ดร.เกรียงพล พัฒนรัฐ นายจรูญ มีธนาถาวร เป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559[36]
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนปัจจุบัน คือ พลตำรวจโท ศานิตย์ มหถาวร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มี 12 คน ได้แก่ พลตำรวจตรี ธนพล สนเทศ พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ พลตำรวจตรี พิทยา ศิริรักษ์ พลตำรวจตรี สมพงษ์ ชิงดวง พลตำรวจตรี สุธีร์ เนรกัณฐี พลตำรวจตรี อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ [37]
มีการโยกย้าย พลตำรวจตรี จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผบช.น. เป็น ผบช.กมค.[38]
มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 876/2559 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน โดยให้ พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา พลตำรวจตรี จิรพัฒน์ ภูมิจิตร พลตำรวจตรี พรชัย ไทยแท้ พลตำรวจตรี ภาณุรัตน์ หลักบุญ พลตำรวจตรี มนตรี ยิ้มแย้ม ดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559
มีที่ทำการตั้งอยู่ที่วังปารุสกวัน ทำหน้าที่ควบคุมดูแลเหตุอาชญากรรมการจราจรและงานปราบปรามยาเสพติดในกรุงเทพมหานคร
การแบ่งเขตการปกครอง
เขต
ดูบทความหลักที่: เขต (หน่วยการปกครอง)
รายชื่อเขต 50 เขตของกรุงเทพมหานคร
ประชากร
สถิติประชากรตามทะเบียนราษฎร กรุงเทพมหานคร[39] | |
---|---|
ปี (พ.ศ.) | ประชากร |
2550 | 5,716,248 |
2551 | 5,710,883 |
2552 | 5,702,595 |
2553 | 5,701,394 |
2554 | 5,674,843 |
2555 | 5,673,560 |
2556 | 5,686,252 |
2557 | 5,692,284 |
2558 | 5,696,409 |
ดูเพิ่มเติมที่: รายชื่อเขตในกรุงเทพมหานครเรียงตามจำนวนประชากร
ปี พ.ศ. 2558 เขตสายไหมเป็นเขตที่มีประชากรมากที่สุดในกรุงเทพมหานครแทนที่ เขตบางแค มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 197,715 ราย
ปี พ.ศ. 2554 กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นอันดับที่ 13 ของโลก[40] ทั้งนี้เนื่องจากประชากรในกรุงเทพมหานครนั้นมีทั้งที่เป็นแรงงานข้ามชาติ ประชาชนจากต่างจังหวัดซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนราษฎรที่กรุงเทพมหานครจำนวนมาก
เศรษฐกิจ
กรุงเทพมหานครมีรายได้หลักจากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม[41]โดยในอดีตที่ผ่านมารายได้นี้มีมากกว่าเงินที่รัฐบาลสนับสนุน
กรุงเทพมหานครเป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศร้อยละ 25 มาจากรุงเทพมหานคร[42] ซึ่งมาจากการค้าปลีกและค้าส่งมากที่สุด ร้อยละ 24.31 รองลงมาได้แก่ อุตสาหกรรมโรงงาน ร้อยละ 21.23 อุตสาหกรรมขนส่งและอุตสาหกรรมสื่อสาร ร้อยละ 13.89 โรงแรมและภัตตาคาร ร้อยละ 9.04
กรุงเทพมหานครยังเป็นอีกเมืองหนึ่งที่กลุ่มทุนข้ามชาติต้องการเข้ามาทำธุรกิจในกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง โดยใน พ.ศ. 2529 บริษัทญี่ปุ่นต่าง ๆ ได้ดำเนินการอย่างจริงจังในการเคลื่อนไหวที่จะย้ายฐานการผลิตออกสู่ต่างประเทศ เป้าหมายหนึ่งคือ ที่กรุงเทพมหานคร[43]
จากการขยายธุรกิจของต่างชาติส่งผลให้มีการจ้างแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานครจำนวนมาก[44] ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดปัญหาความแออัดในกรุงเทพมหานครมากขึ้น แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ถูกยกเป็นข้อสนับสนุนและเป็นหลักฐานว่า กรุงเทพมหานครกำลังเผชิญกับภาวะการขาดแคลนแรงงานเพราะโครงสร้างประชากรในวัยทำงานลดน้อยลง[45]
การคมนาคมเข้าสู่กรุงเทพมหานครมีมากกว่าจังหวัดอื่น เช่นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง รวมถึงถนนในกรุงเทพมหานครที่มีจำนวนกว่า 250 สาย กรุงเทพมหานครเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่ง[46] ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง นิคมอุตสาหกรรมบางชัน นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี โครงการ 2 และ นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี
อนึ่ง เมื่อปี พ.ศ. 2552 เป็นปีแรกในรอบห้าปี ซึ่งโครงสร้างเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร หดตัวลง ยกเว้นภาคธนาคาร และภาคบริหารของรัฐ[47] และในปี พ.ศ. 2557 อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) หน่วยงานวิจัยในเครือ อีโคโนมิสต์ กรุ๊ป รายงานการจัดอันดับ เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประจำปี ผลปรากฏว่า กรุงเทพมหานครอยู่ในอันดับที่ 61[48]
ในปี พ.ศ. 2559 รายงานการศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้าจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์) เปิดเผยว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีแบรนด์ระหว่างประเทศสนใจเข้ามาเปิดร้านจำหน่ายสินค้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 18 ของโลก[49]
พลังงาน
ใน พ.ศ. 2555 กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแรกของประเทศไทยที่เปิดสถานีพลังงานสีเขียวโดยใช้พลังงานทดแทนโดยความร่วมมือจากบริษัท บางจากปิโตรเลียม[50]
การศึกษา
ดูเพิ่มเติมที่: รายชื่อสถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการศึกษาของประเทศ มีสถาบันอุดมศึกษาตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยทั้งของภาครัฐและเอกชนตั้งอยู่ในหรือรอบ ๆ เมืองหลวง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัญญาชนต่าง ๆ ของประเทศล้วนมาจากการบ่มเพาะทั้งศาสตร์และศิลป์จากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำในระดับอุดมศึกษาของกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ปูรากฐานให้นักคิดมาเกือบศตวรรษ กว่าทศวรรษที่ผ่านมา แนวโน้มของการใฝ่หาการศึกษาระดับปริญญาทำให้เกิดมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียนไทย กรุงเทพมหานครไม่กลายเป็นเพียงสถานที่ที่ผู้อพยพและคนต่างจังหวัดแสวงหาโอกาสในการทำงาน แต่ยังเป็นโอกาสที่จะได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหงก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2514[51] เป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชาเพียงแห่งเดียวในประเทศ แต่ก็มีการลงทะเบียนเรียนของนักศึกษาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ของไทย มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นหนึ่งในวิธีที่รัฐบาลไทยใช้จัดการกับการเพิ่มขึ้นของความต้องการการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ความต้องการในการศึกษาระดับสูงได้นำไปสู่การก่อตั้งมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยอื่น ๆ อีกมากมายในเขตเมือง วิทยาลัยอาชีวและวิทยาลัยเทคนิคก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ในปีที่ผ่านมา สถาบันเอกชนจำนวนมากได้ริเริ่มจัดตั้งโปรแกรมการแลกเปลี่ยนและหลักสูตรสองปริญญากับสถาบันจากตะวันตกขึ้นในกรุงเทพ การเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงเรียนที่มีหลักสูตรนานาชาติได้ช่วยยกระดับมาตรฐานการแข่งขันของสถาบันของรัฐให้สามารถแข่งขันกับเอกชนได้ นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยสงฆ์อีกสองแห่งได้แก่ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยในกำกับของกรุงเทพมหานคร อีกหนึ่งแห่งได้แก่ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
สาธารณสุข
ดูเพิ่มเติมที่: รายชื่อโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานครมีโรงพยาบาลตามกฎหมาย 137 แห่งในจำนวนนี้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางทันตกรรม 2 แห่ง และศูนย์การแพทย์อีกหลายแห่ง ซึ่งรวมสถาบันแพทยศาสตร์ 8 แห่งจาก 15 แห่งของประเทศ โรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร เป็นระดับตติยภูมิ ซึ่งรับการส่งต่อโรคที่ต้องการวิธีรักษาที่ซับซ้อนจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ กรุงเทพมหานครมีโรงพยาบาลรัฐ 34 แห่ง สังกัดกรุงเทพมหานคร 6 แห่ง [52] มีโรงพยาบาลเอกชน 107 แห่ง[53] ที่มีชื่อเสียงมาก เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นโรงพยาบาลระดับนานาชาติ โรงพยาบาลที่ใกล้เคียง คือ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทและทั้ง 3 แห่งได้การรับรองจากคณะกรรมการร่วมระหว่างประเทศ[ต้องการอ้างอิง]
ด้านโรงพยาบาลรักษาสัตว์ กรุงเทพมหานครมีทั้งหมดอย่างน้อย 34 แห่ง[54] ด้านการเสริมสร้างสาธารณสุขกรุงเทพมหานครได้มีศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน[55] ไว้บริการประชาชน
สาธารณภัย
การสาธารณภัยในกรุงเทพมหานครเริ่มอย่างจริงจังเมื่อ พ.ศ. 2502 โดยได้มีการจัดตั้งสถานีดับเพลิงบางรัก ในซอยเจริญกรุง 36 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ไปรษณีย์บางรัก โดยอาคารดังกล่าว สร้างตั้งแต่พ.ศ. 2433 ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีสถานีดับเพลิง 35แห่ง[56]ภายใต้การควบคุมของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันมี [57] ไม่มีผู้อำนวยการ พ.ต.อ.เทวานุวัฒน์ อนิรุทธเทวา เป็นรองผู้อำนวยการและรักษาการแทนผู้อำนวยการ นาย วุฒิภัทร คำประกอบ เป็นเลขานุการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.
การท่องเที่ยว
กรุงเทพมหานครเป็นจุดท่องเที่ยวจุดหนึ่ง โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดอรุณราชวราราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พระที่นั่งอนันตสมาคม หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถนนสีลม สยามสแควร์ มาดามทุซโซต์ กรุงเทพ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ (เจริญกรุง)
ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า
ห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในกรุงเทพมหานครเปิดใน พ.ศ. 2368 เมื่อหลวงอาวุธวิเศษประเทศพาณิช (โรเบิร์ต ฮันเตอร์) ได้ขอพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์พระบรมราชานุญาตให้เช่าที่ดินของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) สร้างอาคารสำนักงานและโรงเก็บสินค้าคนไทยสมัยนั้นเรียกว่า ห้างหันแตร[58] ปัจจุบันศูนย์การค้าเป็นที่นิยมมากกว่าห้างสรรพสินค้าทั้งด้านการท่องเที่ยวและการพาณิชย์[ต้องการอ้างอิง] ศูนย์การค้าต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครได้สร้างรายได้ทั้งจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่กรุงเทพมหานครด้วย[59]
โรงภาพยนตร์
โรงภาพยนตร์ในกรุงเทพมหานครเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2440[60] ได้แก่ โรงละครหม่อมเจ้าอลังการ โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุงเป็นโรงมหรสพแห่งแรกของเอเชียที่ใช้เครื่องปรับอากาศ[61] ปัจจุบัน โรงภาพยนตร์มักตั้งอยู่ในศูนย์การค้าต่าง ๆ
ดูเพิ่มเติมที่: รายชื่อโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพมหานคร
วัดและพระราชวัง
ดูเพิ่มเติมที่: รายชื่อวัดในกรุงเทพมหานคร
ดูเพิ่มเติมที่: รายชื่อพระราชวังและวังในประเทศไทย
กรุงเทพมหานครมีวัดทั้งหมด 449 แห่ง[note 1][62] โดยเขตที่มีวัดมากที่สุดได้แก่เขตบางกอกน้อย มีทั้งสิ้น 32 วัด[63]พระราชวังมีทั้งหมด 8 แห่ง วังมีทั้งหมด 17 แห่ง[note 2] (ข้อมูลวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554)
การจัดลำดับเมืองท่องเที่ยว
ประเภทจำนวนนักท่องเที่ยว
- ในปี พ.ศ. 2555 การจัดลำดับโดย Master Card Global Deslination Cities Index 2012 กรุงเทพมหานครคว้าอันดับ 1 สุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นอันดับ 3 ของโลก[64]
- ในปี พ.ศ. 2556 MasterCard Global Destination Cities Index 2013 ระบุว่ากรุงเทพมหานครมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 1 ของโลก[65]
- ในปี พ.ศ. 2557 MasterCard Global Destination Cities Index 2014 ระบุว่ากรุงเทพมหานครมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 2 ของโลก[66]16.42 ล้านคน
- ในปี พ.ศ. 2558 บริษัทวิจัย Euromonitor International ของอังกฤษ เปิดเผยรายงานการศึกษาประจำปี 2017 ชื่อ Top 100 City Destinations Ranking โดยในรายงานระบุว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 2 รองจากฮ่องกงโดยมีนักท่องเที่ยว 18.7 ล้านคน[67]
ประเภทเมืองท่องเที่ยว
- การจัดอันดับของนิตยสารทราเวลแอนด์เลเชอร์ (Travel and Leisure)[68]กรุงเทพมหานครได้รับเลือกให้เป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกใน พ.ศ. 2551, 2553, 2554 และ 2555[69]
- ด้านเว็บไซต์ TripAdvisor ได้เปิดเผยผลสำรวจว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ประหยัดค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 3 จาก 48 เมืองทั่วโลก[70]ในปีพ.ศ. 2556 กรุงเทพมหานครเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของเอเซียและอันดับที่ 13 ของโลก[71]จากเว็บไซต์ TripAdvisor
- ด้านเว็บไซต์ TripAdvisor ได้เปิดเผยผลสำรวจในปี พ.ศ. 2557 กรุงเทพมหานครเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 5 ของเอเซียและอันดับที่ 20 ของโลก รวมทั้งเป็นเมืองที่มีราคาที่พักถูกและคุ้มที่สุดในโลกเป็น อันดับ 4 ของโลก[72]จากเว็บไซต์ TripAdvisor
- ด้านเว็บไซต์ economist.com ได้เปิดเผยผลสำรวจในปี พ.ศ. 2557 กรุงเทพมหานครเป็นเมืองท่องเที่ยวปลอดภัยอันดับ 39 ของโลกจาก 50 อันดับ และได้การอันดับ 14 จาก 18 อันดับของเอเซีย[73]
- ด้านเว็บไซด์ www.agoda.com ได้เปิดเผยผลสำรวจเมืองท่องเที่ยวยอดเยี่ยมในการมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ กรุงเทพมหานครได้รับการจัดลำดับเป็นลำดับ 1[74]
- ในปี พ.ศ. 2559 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ยกกรุงเทพฯ เป็นอันดับ 1 ใน 23 เมือง ที่มีอาหารข้างถนน หรือ Street food ดีที่สุดในโลก[75]
การคมนาคม
เดิมทีกรุงเทพมหานครใช้การสัญจรทางน้ำเป็นหลัก โดยมีคลองมากจนได้ฉายาว่า "เวนิสตะวันออก" แต่ปัจจุบันบางแห่งได้มีการถมคลองเพื่อที่อยู่อาศัย การคมนาคมจึงเน้นหนักไปทางบกแทน ถนนสายแรกคือ ถนนเจริญกรุง ซึ่งสร้างเสร็จใน พ.ศ. 2407 หลังจากนั้น ได้มีการสร้างถนนใหม่ขึ้นมากมาย เช่น ถนนบำรุงเมือง ถนนเฟื่องนคร ประมาณ พ.ศ. 2533 ได้มีการสร้างทางพิเศษขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ระบบขนส่งสาธารณะทางบกสมัยใหม่ ได้แก่ รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก เป็น ส่วนระบบขนส่งทางราง ได้มีส่วนเข้ามาดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2436 โดยให้บริการระบบรถราง ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ พ.ศ. 2437 แต่ได้ถูกยกเลิกไปในปี พ.ศ. 2511 และใน พ.ศ. 2542 ได้มีการเปิดบริการรถไฟฟ้าสายแรก ชื่อว่า รถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนระบบขนส่งทางน้ำนั้น ให้บริการเส้นทางในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแสนแสบ
การเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดต่างๆ มีหลายเส้นทาง ได้แก่ ทางหลวงแผ่นดิน ทางรถไฟ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านได้อีกด้วย
ทางรถยนต์
กรุงเทพมหานครเป็นจุดเริ่มต้นของถนนหลักของประเทศไทย ได้แก่
- ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 สายเหนือ)
- ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 สายตะวันออก)
- ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 สายใต้)
- ถนนพระรามที่ 2 (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35)
ทั้งนี้ มีทางหลวงสายหลักที่ไม่ได้เริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร เช่น ถนนมิตรภาพ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 สายตะวันออกเฉียงเหนือ) ซึ่งเริ่มต้นที่จังหวัดสระบุรี แต่ในสะพานข้ามคลองยังคงนับหลักกิโลเมตรจากกรุงเทพมหานครอยู่
- ทางหลวงพิเศษ
ในเขตกรุงเทพมหานครมีทางหลวงพิเศษ 3 สาย ได้แก่
- ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 รวม 126 กิโลเมตร เปิดใช้บริการครั้งแรก 79 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2541
- ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ถนนกาญจนาภิเษก) เปิดใช้บริการส่วนต่อขยายครั้งล่าสุด (ด้านใต้) วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
- ทางหลวงพิเศษหมายเลข 338 (ถนนบรมราชชนนี)
ดูเพิ่มเติมที่: ทางหลวงพิเศษ
- ทางยกระดับ
- ทางยกระดับอุตราภิมุข มีระยะทางรวมประมาณ 28 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในการบริหารจัดการโดยบริษัททางยกระดับดอนเมืองจำกัด (มหาชน) ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตรจากดินแดงถึงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ (ทางยกระดับดอนเมือง) เปิดบริการเมื่อ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2537 และอยู่ในการบริหารจัดการโดยกรมทางหลวง ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร จากอนุสรณ์สถานแห่งชาติถึงรังสิต (ส่วนของกรมทางหลวง) เปิดบริการเมื่อ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2541
- ทางคู่ขนานลอยฟ้าพระบรมราชชนนี จากทางแยกอรุณอมรินทร์ถึงทางแยกต่างระดับสิรินธรระยะทาง 4.50 กิโลเมตร และจากทางแยกต่างระดับสิรินธรถึงจุดสิ้นสุดโครงการ บริเวณเลยจุดข้ามทางแยกต่างระดับพุทธมณฑล สาย 2 ไปอีก 500 เมตร ระยะทาง 9.30 กิโลเมตร เปิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2541[77]
- ทางพิเศษ
ดูเพิ่มเติมที่: ทางพิเศษในประเทศไทย
กรุงเทพมหานครมีทางพิเศษ (ทางด่วน) ทั้งหมด 9 เส้นทาง ทางเชื่อมพิเศษทั้งหมด 2 เส้นทาง แบ่งเป็นทางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 8 เส้นทาง[78] ทางเชื่อมพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 2 เส้นทาง และ ทางหลวงพิเศษของกรมทางหลวง 1 เส้นทาง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด โดยประชาชนต้องชำระเงินเป็นกรณีพิเศษ
- ทางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้แก่
- ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1) ระยะทางรวม 27.1 กิโลเมตร ประกอบด้วย
- ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2) ระยะทางรวม 28.4กิโลเมตร เปิดให้บริการ 2 กันยายน พ.ศ. 2536
- ทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนสายรามอินทรา-อาจณรงค์) ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร ทางพิเศษฉลองรัชได้เปิดให้บริการตลอดสาย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2539
- ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี) ระยะทาง 55 กิโลเมตร เปิดให้บริการตลอดสายเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543
- ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) ระยะทางรวม 32 กิโลเมตร ระยะที่ 1 ทาง 22 กิโลเมตร เปิดให้บริการ 2 ธันวาคม 2541 และระยะที่ 2 ระยะทาง 10 กิโลเมตร เปิดให้บริการ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
- ทางพิเศษสาย S1 ระยะทาง 4.7 กิโลเมตร ก่อสร้างเป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจร เปิดให้บริการ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2548
- ทางพิเศษสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 9.5 กิโลเมตร เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2552
- ทางพิเศษสายสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ก่อสร้างเป็นทางขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร เปิดให้บริการวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
- ทางเชื่อมพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้แก่
- ทางเชื่อมทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์กับทางพิเศษบูรพาวิถี[79]เปิดบริการ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552
- ทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์กับถนนวงแหวนอุตสาหรรม 2 กิโลเมตร[80]เปิดใช้ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ทางรถโดยสารประจำทาง
รถโดยสารประจำทางมีหลายสายเพื่อเป็นการบริการประชาชน ให้บริการในราคาย่อมเยา โดยรถโดยสารประจำทางเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีทั้งหมด 254 สาย ซึ่งในจำนวนนี้มีที่ขึ้นทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 36 เส้นทาง และเป็นเส้นทางที่ใช้รถปรับอากาศในเส้นทางเดียวกับเส้นทางปกติ 143 เส้นทาง ดังนั้นจึงคงเหลือรถธรรมดาที่ไม่ขึ้นทางด่วนและไม่มีรถปรับอากาศบริการในเส้นทางนั้น ๆ 75 เส้นทาง รถโดยสารร่วมบริการขนาดเล็ก (มินิบัส) ราคา 8 บาทตลอดสาย รถโดยสารธรรมดาของ ขสมก. ราคา 6.50 บาทตลอดสาย รถโดยสารธรรมดาร่วมบริการราคา 8 บาทตลอดสาย รถโดยสารปรับอากาศราคาเริ่มต้น 10 บาท และรถโดยสารปรับอากาศแบบยูโร 2 ราคาเริ่มต้น 11 บาท โดยหากใช้บริการในยามค่ำระหว่างช่วง 23:00 ถึง 5:00 ราคาจะเพิ่มขึ้น 1.50 บาท ตลอดสาย และหากรถขึ้นทางด่วนจะเพิ่มราคาขึ้นอีก 2 บาท (ค่าธรรมเนียมรถบริการตลอดคืน และรถบริการทางด่วนนี้ จะจัดเก็บเฉพาะรถโดยสารธรรมดา ส่วนรถโดยสารปรับอากาศ จะไม่มีการจัดเก็บแต่อย่างใด)
ประเภทของรถ | สี | ค่าโดยสาร | เวลาบริการ | ทางด่วน |
---|---|---|---|---|
รถธรรมดา | ครีม-แดง | 6.50 | 05:00-23:00 | 8.50 |
รถธรรมดา | ครีม-แดง | 8 | 23.00-05.00 | 10 |
รถธรรมดา | ขาว-น้ำเงิน | 9 | 05.00-23.00 | 10 |
รถธรรมดา | ขาว-น้ำเงิน | 9.50 | 23.00-05.00 | 11.50 |
รถมินิบัส | ส้ม | 8 | 05.00-23.00 | |
รถมินิบัส | ส้ม | 9.50 | 23.00-05.00 | |
รถปรับอากาศ | ครีม-น้ำเงิน | 10 12 14 16 18 | ตลอด 24 ชม. | |
รถปรับอากาศ (ยูโร 2) | เหลือง-ส้ม | 11 13 15 17 19 21 23 | ตลอด 24 ชม. |
- รถโดยสารประจำทางต่างจังหวัด
รถโดยสารประจำทางหรือรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สำหรับเดินทางไปจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยมีสถานีหลักอยู่ที่
- สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) (หรือที่เรียกกันติดปากว่า หมอชิตใหม่ หรือ หมอชิต 2) สำหรับเดินทางขึ้นเหนือ ไปภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง (รวมทั้งภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ในบางเส้นทาง)
- สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (เอกมัย) สำหรับเดินทางไปภาคตะวันออก
- สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ถนนบรมราชชนนี) สำหรับเดินทางลงใต้ ไปภาคใต้[note 3] และภาคตะวันตก[note 4]
- รถโดยสารประจำทางต่างประเทศ
รถโดยสารประจำทางหรือรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สำหรับเดินทางไปประเทศกัมพูชา โดยมีสถานีหลักอยู่ที่
- สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) (หรือที่เรียกกันติดปากว่า หมอชิตใหม่ หรือ หมอชิต 2) สำหรับเดินทางไปอำเภออรัญประเทศ-ปอยเปต-พนมเปญและเส้นทางที่สองไปอำเภออรัญประเทศ-ปอยเปต-จังหวัดเสียมราฐ[81]
- รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ
รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ เป็นระบบขนส่งมวลชนใหม่ของกรุงเทพมหานคร มีลักษณะคล้ายกับรถประจำทาง แต่การเดินของรถนั้นแยกออกจากถนนปกติ ปัจจุบันเปิดให้บริการในเส้นทางช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ระยะทาง 15.9 กิโลเมตร
- รถปรับอากาศพิเศษ
รถปรับอากาศพิเศษ (metrobus) เป็นรถของบริษัท พรีเมียร์ เมโทรบัส จำกัด[82]บริการเดินรถในกรุงเทพมหานคร
- รถตู้ประจำทาง
ปัจจุบันมีทั้งหมด 126 สาย ให้บริการระหว่าง 05.00 น. ถึง 22.00 น. ค่าบริการอยู่ที่ 10-35 บาท[83] เป็นรถปรับอากาศร่วมบริการ ขสมก. เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้โดยสารที่ต้องการนั่งบนรถตลอดการเดินทาง
- รถจักรยานยนต์ประจำทาง
รถจักรยานยนตร์ในกรุงเทพมหานคร มีอัตราบริการขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 10 ถึง 20 บาททั้งนี้แล้วแต่ท้องที่นั้น ๆ จะเรียกเก็บค่าโดยสารตามระยะทางที่เดินทางโดยสูงสุดอาจถึง 500 บาท หากไปยังพื้นที่ที่ต้องไปในระยะไกล
ทางรถแท็กซี่
ค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์ในเขตกรุงเทพฯ ยุคแรก จะถูกกำหนดโดยประกาศกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2535 ลงนามโดยนายบรรหาร ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลพลเอกสุจินดา คราประยูร โดยจะเป็นดังนี้ [84]
กิโลเมตรที่ | ค่าโดยสาร |
0-2 | 35 บาท |
2-3 | 5.00 บาท/กิโลเมตร |
3-5 | 4.50 บาท/กิโลเมตร |
5-7 | 4.00 บาท/กิโลเมตร |
7 ขึ้นไป | 3.50 บาท/กิโลเมตร |
ในกรณีที่รถจอดหรือเคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง มิเตอร์เวลาจะเดิน อัตราค่าโดยสาร 1.00 บาท/นาที
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ได้มีการอนุมัติปรับค่าโดยสารแท็กซี่ขึ้นครั้งที่ 1 ซึ่งใช้อัตรานี้มาจนถึง พ.ศ. 2551 โดยอัตราค่าโดยสารเป็นดังนี้[85]
กิโลเมตรที่ | ค่าโดยสาร |
0-2 | 35 บาท |
2-12 | 4.50 บาท/กิโลเมตร |
12-20 | 5.00 บาท/กิโลเมตร |
20 ขึ้นไป | 5.50 บาท/กิโลเมตร |
ในกรณีที่รถจอดหรือเคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง มิเตอร์เวลาจะเดิน อัตราค่าโดยสาร 1.25 บาท/นาที
ในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551 ได้มีการปรับอัตราค่าโดยสารแท็กซี่ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งใช้อัตราค่าโดยสารนี้จนถึงปี พ.ศ. 2557 โดยอัตราค่าโดยสารใหม่คือ[86]
กิโลเมตรที่ | ค่าโดยสาร |
0-1 | 35 บาท |
1-12 | 5 บาท/กิโลเมตร |
12-20 | 5.50 บาท/กิโลเมตร |
20-40 | 6 บาท/กิโลเมตร |
40-60 | 6.50 บาท/กิโลเมตร |
60-80 | 7.50 บาท/กิโลเมตร |
80 ขึ้นไป | 8.50 บาท/กิโลเมตร |
ในกรณีที่รถจอดหรือเคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง มิเตอร์เวลาจะเดิน อัตราค่าโดยสาร 1.50 บาท/นาที
ปัจจุบัน กระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์เป็นครั้งที่ 3 โดยมีผลตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป โดยอัตราค่าโดยสารใหม่คือ[87]
กิโลเมตรที่ | ค่าโดยสาร |
0-1 | 35 บาท |
1-10 | 5.50 บาท/กิโลเมตร |
10-20 | 6.50 บาท/กิโลเมตร |
20-40 | 7.50 บาท/กิโลเมตร |
40-60 | 8.00 บาท/กิโลเมตร |
60-80 | 9.00 บาท/กิโลเมตร |
80 ขึ้นไป | 10.50 บาท/กิโลเมตร |
ในกรณีที่รถจอดหรือเคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง มิเตอร์เวลาจะเดิน อัตราค่าโดยสาร 2.00 บาท/นาที
โดยการคิดค่าโดยสารนั้น จะคิดแยกเป็นส่วนๆ (ส่วนของระยะทาง และส่วนของเวลา) ส่วนของระยะทาง มิเตอร์คำนวณค่าโดยสารได้เท่าไร จะปัดขึ้นเป็นจำนวนเต็มคี่ที่อยู่ถัดขึ้นไป (เช่น คำนวณได้ 47.75 บาท ก็จะปัดขึ้นเป็น 49 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเต็มคี่ที่อยู่ถัดไป) ส่วนของมิเตอร์เวลา มิเตอร์เวลาคำนวณค่าโดยสารได้เท่าไร จะปัดลงเป็นจำนวนเต็มคู่ที่อยู่ลงมา (เช่น มิเตอร์เวลาเดินไปได้ 3.75 บาท ก็จะปัดทิ้งเป็น 2 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเต็มคู่ที่อยู่ถัดลงมา)[ต้องการอ้างอิง]
นอกจากนี้ปัจจุบัน ยังได้ลดอายุการวิ่งบนท้องถนน 9 ปี จากรถรุ่นก่อนๆ สามารถวิ่งได้ 12 ปี แต่ยกเว้นแท็กซี่สีเหลือง-ดำ ซึ่งเป็นแท็กซี่รุ่นเก่าประมาณ ซึ่งสามารถวิ่งเป็นแท็กซี่บนท้องถนนได้ต่อไปเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่มีการจำกัดอายุการใช้งานเป็นแท็กซี่แต่อย่างใด[ต้องการอ้างอิง]
ทางราง
ดูบทความหลักที่: รถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, ระบบขนส่งทางรางในประเทศไทย และ การขนส่งระบบรางในประเทศไทย
กรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซึ่งเป็นสถานีศูนย์กลางของประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งมีผู้คนมากมายมาใช้บริการรถไฟไปยังจังหวัดในภูมิภาคต่างๆ
กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองเดียวในประเทศไทยที่มีระบบรถไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วย 3 ระบบ คือ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล และ รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และในอนาคต อาจมีความยาวเกือบ 400 กิโลเมตร ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งได้มีโครงการรถไฟฟ้ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 แล้ว[88]
รถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2542 แบ่งการเดินรถเป็น 2 เส้นทาง ได้แก่ สายสุขุมวิท และสายสีลม รวมระยะทาง 30.95 กิโลเมตร (19.23 ไมล์) ส่วนรถไฟฟ้ามหานคร เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2547 สายที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน คือ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ระยะทาง 20 กิโลเมตร (12 ไมล์) จำนวน 18 สถานี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส จำนวน 3 สถานี และ รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2553 ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังใจกลางเมือง ระยะทาง 28 กิโลเมตร (17 ไมล์) จำนวน 8 สถานี
ในช่วงแรกๆ ที่เปิดให้บริการนั้น มีผู้โดยสารมาใช้บริการค่อนข้างน้อย แต่ในปัจจุบันกลับมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก รถไฟฟ้าบีทีเอส มีผู้โดยสารมาใช้บริการ 392,167 เที่ยวต่อวัน ในขณะที่รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล มีผู้โดยสารมาใช้บริการ 178,334 เที่ยวต่อวัน (ข้อมูล พ.ศ. 2553)
ในขณะนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล อยู่ในระหว่างการก่อสร้างส่วนต่อขยาย เส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างใหม่ ได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าในโครงการอีก 10 สาย มีทั้งรถไฟฟ้าขนาดหนัก (Heavy rail) และรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือรางเบา (Monorail) ซึ่งจะเร่งรัดให้เสร็จภายใน พ.ศ. 2572
กรุงเทพมหานครมีบริการรถรางของรัฐได้แก่ รถรางรอบเกาะรัตนโกสินทร์คิดค่าบริการ 30 บาท ดำเนินการขนส่งภายในเขตพระนครลักษณะรถทัวร์ชมเมืองวิ่งบนถนน ไม่ใช่รถรางไฟฟ้า[89][90]
ส่วนรถรางของบริษัทเอกชนได้แก่ของ บริษัท ริเวอร์ไซด์ มาสเตอร์แพลน บริการให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวภายใน เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลมและรถรางบริเวณระหว่างตลาดนัดสวนจตุจักรกับห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์
ทางอากาศ
กรุงเทพมหานครมีท่าอากาศยานหลักสองท่าอากาศยาน คือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติขนาดใหญ่ที่รองรับผู้โดยสารต่างประเทศเข้าสู่กรุงเทพมหานคร และผู้โดยสารในประเทศออกสู่ต่างประเทศเป็นหลัก ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 มีสายการบินจำนวน 87 สายการบินใช้บริการท่าอากาศยานแห่งนี้ แบ่งเป็น เครื่องขนส่งผู้โดยสาร 82 สายการบิน และเครื่องขนส่งสินค้าเพียงอย่างเดียว 5 สายการบิน ไม่นับรวมสายการบินเช่าเหมาลำ โดยเปิดใช้มาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 แทนท่าอากาศยานดอนเมือง ที่เปิดใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2457 แต่ต่อมาในเดือนตุลาคม[91]ปี พ.ศ. 2555 รัฐบาลได้มีมติให้ ท่าอากาศยานดอนเมืองกลับมาเป็นท่าอากาศยานพาณิชย์อีกครั้งหลังจากที่ถูกโอนให้กองทัพอากาศเป็นผู้โดยแล จึงทำให้ท่าอากาศยานดอนเมืองกลายเป็นท่าอากาศยานรองที่รองรับการโดยสารอากาศยานของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางทั้งในและต่างประเทศเป็นต้น
ทางน้ำ
เรือโดยสารทั้งทางแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองมีดังนี้
- เรือโดยสารคลองแสนแสบ
- เรือหางยาวโดยสารคลองพระโขนง (พระโขนง-ตลาดเอื่ยมสมบัติ)
- เรือด่วนเจ้าพระยา: เรือด่วนประจำทางและเรือด่วนพิเศษ (ธงส้ม ธงเหลือง ธงฟ้า และธงเขียว-เหลือง)
- เรือหางยาวด่วนคลองบางกอกน้อย
- เรือโดยสารคลองภาษีเจริญ
- เรือด่วนสาทร-คลองเตย
ส่วนท่าเรือสำหรับขนส่งผู้โดยสารและรับส่งสินค้าที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร คือ ท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตคลองเตย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น