วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รถรับจ้างเที่ยวเปล่าอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี



รถรับจ้างเที่ยวเปล่าอุบลราชธานี
รถรับจ้างเที่ยวเปล่าอยู่จังหวัดอุบลราชธานี ให้บริการด้าน,รถรับจ้างอุบลราชธานี,รถหกล้อรับจ้างย้ายบ้าน,บริการงานขนส่ง ,รับจัดส่งสินค้า รถรับจ้าง ขน ส่ง ยก ย้าย สิ่งของต่างๆ บริการด้วยความซื่อตรง เราให้บริการรถรับจ้างอุบลราชธานี ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงท่านคิดจะย้าย คิดถึงรถขนของคิดถึงเราทันที "สมาคมรถรับจ้างไทย" ,รถรับจ้างอุบลราชธานีด้วยราคายุติธรรม ไม่แพงอย่างที่ท่านคิด เพียงท่านยกหูหาเราเท่านั้น มีรถรับจ้างจังหวัดอุบลราชธานี นัดล่วงหน้าราคาพิเศษ มีรถล่องทั่วไทย

ยินดีต้อนรับบริการรถรับจ้าง ขนของ ย้ายบ้าน ขน ส่ง ยก ย้าย สิ่งของต่างๆ ราคาถูกมาก มีรถบรรทุกประจำจังหวัดอุบลราชธานี
รถบรรทุก
บริการรถรถจ้างอุบลราชธานี รถรับจ้าง บริการขนย้าย 6 ล้อ 10 ล้อ ขนของ ขนส่ง ขนย้าย สินค้าต่างๆทั่วประเทศ พนักงานยก รับงานขนย้าย ย้ายบ้าน ย้ายคอนโด ย้ายหอพัก สำนักงาน ออฟฟิศ บริการรถรับจ้างขนย้ายอุบลราชธานีไปทั่วไทย ท่านใดสนใจหรือมีงานเร่ง งานด่วน สามารถติดต่อเราได้ทันที บริการ รถรับจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง มีรถ 6 ล้อ บริการขนย้ายสินค้าพร้อม พนักงานยกของ งานบูธสินค้า งานก่อสร้าง ย้ายบ้าน สำนักงาน โดยทีมงานมืออาชีพมีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ท่านใดสนใจสามารถติดต่อ ทีมงาน สมาคมรถรับจ้างไทย บริการ รถรับจ้างอุบลราชธานี พร้อมทั้งเรายัง บริการ,รถรับจ้างขนของย้ายบ้าน อุบลราชธานี ,รถ 10 ล้อรับจ้าง ขนย้ายเพื่องานแสดงโชว์ ออกบูธ ตามสถานที่ต่างๆ  รับผิดชอบงานทุกงาน ตรงต่อเวลา ด้วยการให้บริการด้านรถรับจ้างนานนับสิบปี เรารู้ความต้องการของท่าน เราตอบโจทย์ท่านได้ บริการด้านรถรับจ้าง ทั่วไทย ต้องเราเท่านั้น

เหตุผลหนึ่งที่หลายคนอาจกังวลใจเมื่อตัดสินใจใช้บริการรถรับจ้างในการขนส่งสินค้าหรือชิ้นงานชิ้นใหญ่ให้กับลูกค้า ก็คือไม่แน่ใจว่าคนส่งของจะดูแลสินค้าดีหรือไม่ สินค้าจะส่งถึงปลายทางได้ทันเวลาหรือเปล่า แต่ถ้าหากเลือกใช้บริการรถรับจ้าง 4 ล้อ 6 ล้อ 10 ล้อ อุบลราชธานี ที่มีความน่าเชื่อถือ ความกังวลใจเหล่านี้ก็จะหมดไป ด้วยความชำนาญเส้นทางและพนักงานที่ผ่านงานมาอย่างยาวนาน มีความชำนาญในการขนย้ายของ จะช่วยนำสินค้าส่งตรงถึงที่หมายได้ตรงเวลาอย่างที่คุณต้องการแน่นอน
รถกระบะ
การให้บริการแก่ลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานีของเรานั้นเป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพอย่างเต็มเปี่ยม เนื่องจากการเราได้ใส่ใจรายละเอียดที่จะเพิ่มพูนทักษะการทำงานของเจ้าหน้าที่ของเราทุกคนอยู่เสมอ โดยแต่ละช่วงของการทำงานนั้นเราจะมีการจัดตั้งการอบรมเพิ่มทักษะการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ของเรา และยังมีการฝึกฝนเพื่อที่เจ้าหน้าที่ของเราจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเราคิดว่าการให้ความสำคัญกับบุคลากรนั้นเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญของการทำงานของเรามากที่สุดด้วยเช่นกัน


รถ6ล้อ
รถรับจ้าง,รถหกล้อรับจ้าง,รถสิบล้อรับจ้าง,รับจ้างย้ายบ้านอุบลราชธานี
บริการรถสิบล้อรับจ้างทั่วไปในจังหวัดอุบลราชธานี เราต้องการให้ชาวอุบลทุกท่านได้มีโอกาสได้ใช้บริการดีๆจากเรา เราคือผู้ให้บริการรถสิบล้อรับจ้างที่ดี ที่มีความเป็นมืออาชีพในด้านการขนส่งไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างขนย้ายสิ่งของ ขนย้ายอุปกรณ์หรือส่งสินค้าที่มีมูลค้าและมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน เราสามารถให้บริการลูกค้าของเราทุกคนอย่างดีและสามารถให้บริการลูกค้าด้วยราคาที่เป็นกันเองครับ เพียงติดต่อมาที่เราเรายินดีให้บริการทุกท่านด้วยใจ

บริการรถรับจ้างคลอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี
รถสิบล้อ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอกุดข้าวปุ้น
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอโขงเจียม
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเขมราฐ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเขื่องใน
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเดชอุดม
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอดอนมดแดง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอตระการพืชผล
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอตาลสุม
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอทุ่งศรีอุดม
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอนาจะหลวย
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอนาตาล
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอนาเยีย
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอน้ำขุ่น
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอน้ำยืน
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอบุณฑริก
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอโพธิ์ไทร
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอพิบูลมังสาหาร
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอม่วงสามสิบ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเมืองอุบลราชธานี
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอวารินชำราบ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอศรีเมืองใหม่
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอสว่างวีระวงศ์





บริการถรับจ้างทั่วไปในจังหวัดอุบลราชธานีเรามีบริการดีๆมาภูมิใจนำเสนอทุกท่านไม่ว่าจะเป็นรับจ้างขนส่งขนของขนย้ายหรือบรรทุกเราก็สามารถให้บริการท่านได้ทั้งสิ้นหากวันนี้ท่านต้องการใช้บริการรถรับจ้างจากเราทั้งรถกระบะรถหกล้อรถสิบล้อรถเครนรถบรรทุกรถสไลด์รุพ่วงรุลากโลเบทหางปลาฯลฯเราก็พร้อมให้บริการทุกท่านจะเช่าเหมาแบบรายเดือนรายวันท่านก็สามารถโทรมาติดต่อสอบถามและขอคำแนะนำจากทีมงานเราได้ทุกเมื่อครับ


บริการรถหกล้อรับจ้างจังหวัดอุบลราชธานี

บริการรถหกล้อรับจ้างของบริษัทนี้ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังในการทำงานของเขาเลยเพราะเขาตรวจเช็คสภาพรถหกล้อก่อนออกมาทำงานกันทุกวันรอบคอบกันแบบนี้ไงละงานถึงไม่มีสะดุดไม่มีเหตุการณ์ที่ว่ารถเสียให้ผมได้รำคาญใจเลยผมถึงถูกใจและติดใจใช้บริการของเขามาตลอดไม่คิดทีจะเปลี่ยนไปใช้บริการของบริษัทไหนอีก เพราะผมเจอกับบริการที่ดีเลิศของเขาแล้วคงจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปใช้บริการที่ไม่ได้เรื่องของบริษัทอื่นอีกหรอก


บริการรถกระบะ4ล้อรับจ้างจังหวัดอุบลราชธานี

            หากท่านที่กำลังมองหาหรือกำลังเลือกบริการรถกระบะรับจ้างอยู่เราขอนำเสนอบริการรถกระบะรับจ้างจังหวัดนี้ให้เพราะเขาได้คัดแต่พนักงานฝีมือดีกันทุกคนเพราะการบรรทุกของหนักไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนที่ขับรถไม่คล่องไม่ค่อยเป็น ลองมาใช้บริการของเราดูก่อนแล้วคุณจะติดใจในการทำงานที่รวดเร็วเสร็จเร็วตรงต่อเวลาแถมราคาค่าจ้างยังคิดไม่แพงอีกด้วยบริการรถกระบะรับจ้างจังหวัดนี้เปิดให้บริการทุกวันอย่ามั่วรอช้ากันลองมาสัมผัสกับทีมงานของเขาแล้วคุณจะติดใจ


บริการรถขนส่งอุบลราชธานี

จังหวัดอุบลราชธานีอีกหนึ่งธานีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดทางอีสานของประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สำคัญเพราะมีชายแดนที่สนิทกับประเทศเพื่อนเล่นบ้านข้าวของข้าพเจ้าอย่างเขมรนั่นเองครั้นแล้วเหตุของการให้บริการต่างๆหรือไม่การค้าสินค้าสินค้าระหว่างพรมแดนแล้วจึงเป็นเรื่องที่สามัญมากๆ รวมไปถึงเหตุการณ์ของการเติบใหญ่ด้านกิจการของบริการรถรับจ้างขนย้ายจังหวัดอุบลราชธานีต่างๆเพื่อที่สามารถทำเงินอย่างมากมายภายใน 1 ปีให้แก่ชาวจังหวัดอุบลราชธานีอุบลราชธานี


มั่นใจว่าบริการรถรับจ้างย้ายต่างๆตรงนั้นแบ่งออกได้นานาประการรูปแบบการให้บริการตลอดบริการรถรับจ้างขนย้ายผู้โดยสารสำหรับโปรดให้การสัญจรข้ามมณฑลไปสัญจรหรือทำกิจการคือไปอย่างง่าย
ถางขึ้นใช่ไหมบริการรถรับจ้างย้ายประเภทรถประทุกของซื้อของขายอุบลราชธานี ซึ่งข้าพเจ้าก็ใช้
ผลกันต้นแบบตรงๆคือย้ายผลิตภัณฑ์ต่างๆข้ามพรมแดนเพื่อทำการค้าขายกันนั่นเอง บริการรถรับจ้างขนส่งทั้ง 2 รูปแบบนี้ดูจะแหวกแนวกันอย่างทั้งหมดเพราะมีจุดมุ่งหมายในการใช้งานที่ฉีกแนวกันออกไป พร้อมทั้งบริการรถรับจ้างขนย้ายที่กระผมได้ในบริการอยู่ในอาณาเขตพท.อุบลราชธานี ก็เป็นรถรับจ้างขนชนิดรถใส่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะประกอบไปด้วย รถหกล้อรับจ้าง รถ 10 ล้อรับจ้าง พร้อมด้วยรถเทรลเลอร์พร้อมทั้งรถพ่วงนั่นเอง และรถที่มีการใช้งานกันเป็นโควตามากในบริเวณนี้ก็หมายถึง
ระดับแรก รถหกล้อรับจ้างอุบลราชธานี จุดเด่นของการใช้งานรถขนสอนค้าลักษณะนี้ในมณฑลอุบลราชธานีก็หมายถึงไม่ไหวถูกทดสอบอย่างเข้มงวดกวดขันมากนักในมณฑลภูมิประเทศแนวพรมแดน(แต่ก็ตรวจจามมาตรฐานของรัฐ)ทำเอาไม่ต้องเสียเวลาอยู่ที่ด่านนานเกินไป แล้วจึงสามารถขนย้ายของซื้อของขายได้เร็วแม้ว่าจะไม่สามารถขนของซื้อของขายได้มากเท่ากับรถสิบล้อประเภทอื่นๆนั่นเอง


อันดับที่ 2 ก็คือ รถ 10 ล้อรับจ้างอุบลราชธานี รถแบบนี้จะมีปริมาตรที่ใหญ่ขึ้นกว่ารถหกล้อ เก่งขนสินค้าได้ในจำนวนมากที่ไม่เบาและท่องเที่ยวในยุคสมัยทางที่ไกลลิบกระทั่งรถหกล้อรับจ้าง แม้ว่าจะมีมูลค่าค่าจ้างงานที่สูงก็ยินยอม
พร้อมทั้งเสี่ยงโอกาสต่อการติดอยู่ที่ด่านนานหากต้องถูกตรวจสอบอย่างรัดกุมนั่นเอง แต่เพราะว่ารวมแล้วรถ 10 ล้อก็ยังคงเป็นรถสิบล้อที่สามารถทำเวลาในการขนส่งของซื้อของขายได้ดีไม่เบาที่มากประเภทหนึ่ง
อันดับที่ 3 หมายถึง รถเทรลเลอร์พร้อมด้วยรถพ่วงอุบลราชธานี เพราะหลักๆรถพรรค์นี้จะไม่บ้างถูกนำมาใช้เป็นรถรับจ้างขนส่งของในผิวดินที่จังหวัดอุบลราชธานีนัก พร้อมทั้งกล้าหาญจะเจอการใช้งานรถเทรลเลอร์และรถพ่วงเนื้อๆการเดินทางใน
ประเทศเฉพาะ นิดหน่อยคราวนักที่ฉันจะพบการใช้งานรถเทรลเลอร์และรถพ่วงเพื่อเดินแนวข้ามเมือง ข้างนอกจากนี้ฉันยังให้บริการรถเทรนเลอร์ในการบรรทุก
รถขนาดใหญ่สิ่งของของหนักๆ ด้วย ใครที่ต้องการใช้บริการสามารถสื่อสารมาได้ล่วง ล้วน 24 ชม.

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง:   http://xn--12ccp1dfod4eca5f5hmi.com/

facebook:                     https://www.facebook.com/ubon4610




รถขนส่งจุดที่ 1 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง เชียงราย
รถขนส่งจุดที่ 2 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง เชียงใหม่
รถขนส่งจุดที่ 3 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง น่าน
รถขนส่งจุดที่ 4 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง พะเยา
รถขนส่งจุดที่ 5 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง แพร่
รถขนส่งจุดที่ 6 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง แม่ฮ่องสอน
รถขนส่งจุดที่ 7 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ลำปาง
รถขนส่งจุดที่ 8 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ลำพูน
รถขนส่งจุดที่ 9 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง อุตรดิตถ์
รถขนส่งจุดที่ 10 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง จันทบุรี
รถขนส่งจุดที่ 11 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ฉะเชิงเทรา
รถขนส่งจุดที่ 12 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ชลบุรี
รถขนส่งจุดที่ 13 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ตราด
รถขนส่งจุดที่ 14 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ปราจีนบุรี
รถขนส่งจุดที่ 15 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ระยอง
รถขนส่งจุดที่ 16 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สระแก้ว
รถขนส่งจุดที่ 17 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง กาฬสินธุ์
รถขนส่งจุดที่ 18 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ขอนแก่น
รถขนส่งจุดที่ 19 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ชัยภูมิ
รถขนส่งจุดที่ 20 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง นครพนม
รถขนส่งจุดที่ 21 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง นครราชสีมา
รถขนส่งจุดที่ 22 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง บึงกาฬ
รถขนส่งจุดที่ 23 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง บุรีรัมย์
รถขนส่งจุดที่ 24 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง มหาสารคาม
รถขนส่งจุดที่ 25 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง มุกดาหาร
รถขนส่งจุดที่ 26 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ยโสธร
รถขนส่งจุดที่ 27 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ร้อยเอ็ด
รถขนส่งจุดที่ 28 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง เลย
รถขนส่งจุดที่ 29 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สกลนคร
รถขนส่งจุดที่ 30 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สุรินทร์
รถขนส่งจุดที่ 31 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ศรีสะเกษ
รถขนส่งจุดที่ 32 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง หนองคาย
รถขนส่งจุดที่ 33 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง หนองบัวลำภู
รถขนส่งจุดที่ 34 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง อุดรธานี
รถขนส่งจุดที่ 35 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง อุบลราชธานี
รถขนส่งจุดที่ 36 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง อำนาจเจริญ
รถขนส่งจุดที่ 37 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง กำแพงเพชร
รถขนส่งจุดที่ 38 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ชัยนาท
รถขนส่งจุดที่ 39 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง นครนายก
รถขนส่งจุดที่ 40 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง นครปฐม
รถขนส่งจุดที่ 41 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง นครสวรรค์
รถขนส่งจุดที่ 42 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง นนทบุรี
รถขนส่งจุดที่ 43 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ปทุมธานี
รถขนส่งจุดที่ 44 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง พระนครศรีอยุธยา
รถขนส่งจุดที่ 45 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง พิจิตร
รถขนส่งจุดที่ 46 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง พิษณุโลก
รถขนส่งจุดที่ 47 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง เพชรบูรณ์
รถขนส่งจุดที่ 48 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ลพบุรี
รถขนส่งจุดที่ 49 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สมุทรปราการ
รถขนส่งจุดที่ 50 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สมุทรสงคราม
รถขนส่งจุดที่ 51 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สมุทรสาคร
รถขนส่งจุดที่ 52 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สิงห์บุรี
รถขนส่งจุดที่ 53 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สุโขทัย
รถขนส่งจุดที่ 54 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สุพรรณบุรี
รถขนส่งจุดที่ 55 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สระบุรี
รถขนส่งจุดที่ 56 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง อ่างทอง
รถขนส่งจุดที่ 57 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง อุทัยธานี
รถขนส่งจุดที่ 58 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง กระบี่
รถขนส่งจุดที่ 59 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ชุมพร
รถขนส่งจุดที่ 60 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ตรัง
รถขนส่งจุดที่ 61 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง นราธิวาส
รถขนส่งจุดที่ 63 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ปัตตานี
รถขนส่งจุดที่ 64 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง พังงา
รถขนส่งจุดที่ 65 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง พัทลุง
รถขนส่งจุดที่ 66 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง เก็ต
รถขนส่งจุดที่ 67 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ระนอง
รถขนส่งจุดที่ 68 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สตูล
รถขนส่งจุดที่ 69 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง งขลา
รถขนส่งจุดที่ 70 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง สุราษฎร์ธานี
รถขนส่งจุดที่ 71 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ยะลา
รถขนส่งจุดที่ 72 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง กาญจนบุรี
รถขนส่งจุดที่ 73 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ตาก
รถขนส่งจุดที่ 74 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ประจวบคีรีขันธ์
รถขนส่งจุดที่ 75 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง เพชรบุรี
รถขนส่งจุดที่ 76 รถรับจ้างขนส่ง อุบลราชธานี ไปถึง ราชบุรี


แผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี
แผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี http0817684439.blogspot.com

แผนที่ตัวเมืองอุบลราชธานี
แผนที่ตัวเมืองอุบลราชธานี  http0817684439.blogspot.com
อุบลราชธานี เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและของประเทศไทย ทั้งยังเป็นตำบลที่ตั้งของเส้นเวลาหลักของประเทศ ที่เส้นแวง 105 องศาตะวันออก โดยเป็นจังหวัดแรกที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ก่อนพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ
จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำมูลที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากว่า 200 ปี มีพื้นที่กว้างใหญ่ ภายหลังถูกแบ่งออกเป็นจังหวัดใหม่คือจังหวัดยโสธรในปี พ.ศ. 2515 และจังหวัดอำนาจเจริญในปี พ.ศ. 2536 ซึ่งถ้ารวมพื้นที่อีกสองจังหวัดที่แยกออกไป จังหวัดอุบลราชธานีจะมีพื้นที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

อาณาเขต

แนวพรมแดนติดต่อกับประเทศลาวและกัมพูชา รวมความยาวประมาณ 428 กิโลเมตร
  • ติดต่อกับประเทศลาว 361 กิโลเมตร (จากอำเภอเขมราฐถึงอำเภอน้ำยืน ติดต่อกับแขวงสุวรรณเขต แขวงสาละวัน และแขวงจำปาศักดิ์)
  • ติดต่อกับประเทศกัมพูชา 67 กิโลเมตร (อำเภอน้ำยืน ติดต่อกับจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา)

ผู้ก่อตั้งเมือง

พระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ดำรงฐานะ เจ้าประเทศราช เป็นผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี เจ้าคำผงเป็นโอรสของพระเจ้าตาและเจ้านางบุศดี (เชื้อสายราชวงศ์เชียงรุ้ง สิบสองปันนา) สมภพเมื่อปี พ.ศ. 2252 ที่นครเวียงจันทน์ เสกสมรสกับเจ้านางตุ่ยธิดาเจ้าอุปราช (ธรรมเทโว) พระอนุชาของพระเจ้าองค์หลวง (ไชยกุมาร) เจ้านครจำปาศักดิ์ ได้รับแต่งตั้งเป็น พระประทุมสุรราช เมื่อปี พ.ศ. 2323 อันเป็นตำแหน่งนายกกองใหญ่คุมเลก (ไพร่) อยู่ที่บ้านดู่ บ้านแก ขึ้นกับนครจำปาศักดิ์ ปี พ.ศ. 2329 ได้ย้ายครอบครัวและไพร่พลจากบ้านดู่ บ้านแก มาตั้งบ้านเมืองใหม่ที่ตำบล ห้วยแจระแม โดยพระบรมราชาอนุญาตในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และตั้งชื่อ เมืองนี้ว่า "เมืองอุบล" จากการร่วมปราบกบฏอ้ายเชียงแก้วในปี พ.ศ. 2334 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งพระประทุมสุรราช (เจ้าคำผง) เป็นพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ และยกฐานะเมืองอุบลเป็น “เมืองอุบลราชธานีศรีวะนาไล ประเทษราช" เมื่อวันจันทร์ แรม 13 ค่ำ เดือน 8 จุลศักราช 1151 ตรงกับปี พ.ศ. 2335 พระประทุมวรราชสุริยวงศ์ได้สร้างวัดหลวงเป็นวัดคู่เมืองขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำมูล ซึ่งถือเป็นวัดแรกของเจ้าเมืองอุบลราชธานีคนนี้ พ.ศ. 2338 พระประทุมวรราชสุริยวงศ์ได้ถึงแก่พิราลัยเมื่อวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 12 ปีเถาะ จุลศักราช1157 รวมอายุได้ 86 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองอุบลราชธานีศรีวะนาไล ประเทษราช อยู่ 3 ปี

ประวัติศาสตร์

อนุสาวรีย์พระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี
เมื่อปีพุทธศักราช 2228 เกิด วิกฤติทางการเมืองในนครเชียงรุ้ง เพราะกลุ่มจีนฮ่อธงขาวยกกำลังปล้น เมืองเจ้านครเชียงรุ้งคือ เจ้าอินทกุมาร เจ้านางจันทกุมารี และเจ้าปางคำ ได้อพยพไพร่พลมาขอพึ่งบารมีพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชของเวียงจันทน์ จึงโปรดให้นำไพร่พลไปตั้งเมืองที่หนองบัวลุ่มภู (ปัจจุบันเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู) โดยตั้งชื่อเมืองว่า "นครเขื่อนขันธ์ กาบแก้วบัวบาน"
ต่อมาพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช ให้เจ้าปางคำเสกสมรสกับพระราชนัดดามีโอรส คือ เจ้าพระตา เจ้าพระวอซึ่งมีความสำคัญต่อเมืองอุบลราชธานีอย่างยิ่ง เพราะต่อมา ปีพุทธศักราช 2314 เกิดสงครามแย่งชิงอำนาจระหว่างเวียงจันทน์กับเมืองหนองบัวลุ่มภู โดยพระเจ้าสิริบุญสาร พระเจ้าแผ่นดินอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ขอบุตรธิดาของเจ้าพระตา เจ้าพระวอ ไปเป็นนางห้ามและนางสนม แต่เจ้าพระตา เจ้าพระวอ ไม่ยอมยกให้ ทำให้พระเจ้าจ้าสิริบุญสาร ส่งกองทัพมาตีเมืองหนองบัวลุ่มภู เจ้าพระตา เจ้าพระวอ ยกกองทัพออกต่อสู้ จนกองทัพเวียงจันทน์ต้องพ่ายกลับไปหลายครั้ง

สงครามระหว่างเวียงจันทน์กับเมืองหนองบัวลุ่มภู ต่อสู้กินเวลายาวนานถึง 3 ปี ไม่มีผลแพ้ชนะกัน พระเจ้าสิริบุญสารได้ส่งทูตไปขอกองทัพพม่าที่เมืองนคร เชียงใหม่ ให้มาช่วยตีเมืองหนองบัวลุ่มภู โดยมีเงื่อนไขเวียงจันทน์ยอมเป็นเมืองขึ้นของพม่า กองทัพพม่าที่เมืองเชียงใหม่ จึงให้ม่องระแง คุมกองทัพมาช่วยเจ้าสิริบุญสารรบ เมื่อฝ่ายเจ้าพระตาทราบข่าวศึก คะเนคงเหลือกำลังที่จะต้านศึกกองทัพใหญ่กว่าไว้ได้ จึงให้เจ้าคำโส เจ้าคำขุย เจ้าก่ำ เจ้าคำสิงห์ พาไพร่พล คนชรา เด็ก ผู้หญิง พร้อมพระสงฆ์ อพยพมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อหาที่สร้างบ้านแปลงเมืองใหม่ไว้รอท่า หากแพ้สงครามจะได้อพยพติดตามมาอยู่ด้วย
โดยแรกได้มาตั้งเมืองที่บ้านสิงห์โคก บ้านสิงห์ท่า (ปัจจุบันคือจังหวัดยโสธร) และการสู้รบในครั้งสุดท้าย เจ้าพระตาถึงแก่ความตายในสนามรบ เจ้าพระวอผู้เป็นบุตรชายคนโต พร้อมด้วยพี่น้องคือ นางอุสา นางสีดา นางแสนสีชาด นางแพงแสน เจ้าคำผง เจ้าทิตพรหม และนางเหมือนตา ได้หลบหนีออกจากเมืองมารับเสบียงอาหารจากบ้านสิงห์โคก สิงห์ท่า แล้วผ่านลงไปตั้งเมืองที่ "ดอนมดแดง" พร้อมขอพึ่งพระเจ้าองค์หลวงไชยกุมาร แห่งนครจำปาศักดิ์ ฝ่ายเจ้าสิริบุญสารทราบข่าวการตั้งเมืองใหม่ จึงให้อัคฮาดหำทอง และพญาสุโพ ยกกองทัพมาตีเจ้าพระวอสู้ไม่ได้ และเสียชีวิตในสนามรบ เจ้าคำผงผู้น้องจึงขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม พร้อมมีใบบอกลงไปที่เมืองนครราชสีมา และกรุงธนบุรี เพื่อขอพึ่งบารมีพระเจ้ากรุงธนบุรี ซึ่งให้ เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) และเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) ยกกองทัพมาช่วยเจ้าคำผง ด้านพญาสุโพรู้ข่าวศึกของเจ้ากรุงธนบุรี จึงสั่งถอยทัพกลับเวียงจันทน์ แต่เจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ ได้เดินทัพติดตามทัพเวียงจันทน์ จนสามารถเข้ายึดเมืองได้สำเร็จ จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พร้อมคุมตัวเจ้าสิริบุญสารไปกรุงธนบุรี ส่วนเจ้าคำผงหลังเสร็จศึกได้กลับไปตั้งเมืองอยู่ที่ดอนมดแดงเหมือนเดิม กระทั่งปีพุทธศักราช 2319 เกิดน้ำท่วมใหญ่ เจ้าคำผงจึงอพยพไพร่พลไปอยู่ที่ดอนห้วยแจระแม (ปัจจุบัน คือบ้านท่าบ่อ) รอจนน้ำลด แล้วจึงหาทำเลที่ตั้งเมืองใหม่ที่ที่ตำบลบ้านร้าง เรียกว่า ดงอู่ผึ้งริมฝั่งแม่น้ำมูลอันเป็นที่ตั้งของจังหวัดอุบลราชธานีในปัจจุบัน เมื่อปีพุทธศักราช 2320 พร้อมกับได้สร้างพระอารามหลวงขึ้นเป็นวัดแรก
ต่อมาปีพุทธศักราช 2322 พระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดเกล้าฯให้เจ้าพระยาราชสุภาวดี เชิญท้องตราขึ้นมาตั้งเป็นเมืองอุบลราชธานี พร้อมให้เจ้าคำผงเป็นเจ้าเมืองในราชทินนาม "พระประทุมราชวงศา" เจ้าทิตพรหมเป็นพระอุปฮาด เจ้าก่ำเป็นราชวงศ์ เจ้าสุดตาเป็นราชบุตร โดยเป็นคณะอาญาสี่ชุดแรกของเมืองอุบลราชธานี จนถึงกาลเปลี่ยนแผ่นดินปีพุทธศักราช 2334 สมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เกิดขบถอ้ายเชียงแก้วเขาโอง ยกกำลังมาตีเมืองนครจำปาศักดิ์ เจ้าฝ่ายหน้าผู้น้องพระประทุมราชวงศาได้ยกกำลังไปรบ สามารถจับอ้ายเชียงแก้วได้ และทำการประหารชีวิตที่บริเวณแก่งตะนะ
ในปีถัดมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเมืองอุบลขึ้นเป็นเมืองประเทศราช แต่งตั้งให้พระประทุมราชวงศาเป็นพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (คำผง) เจ้าครองเมือง เมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช พระราชทานพระสุพรรณบัตร และเครื่องยศเจ้าเมืองประเทศราช พร้อมทำพิธีสบถสาบานถือน้ำพิพัฒน์สัตยา เมื่อวันจันทร์ เดือน 8 แรม 13 ค่ำ จุลศักราช 1154 ปีชวด จัตวาศก ตรงกับวันที่ 16 กรกฎาคม 2335 โดยเป็นเจ้าเมืองคนแรกของอุบลราชธานี ถึงปี 2338 พระพรหมวรราชสุริยวงศ์ (ทิดพรหม) น้องชายเจ้าพระประทุม จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองอุบลราชธานีคนต่อมา รวมมีเจ้าเมืองอุบลราชธานี ที่พระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งทั้งสิ้น 4 ท่าน
ภายหลังการก่อตั้งเมืองอุบลฯ แล้ว ก็ได้มีการตั้งเมืองสำคัญในเขตปกครองของจังหวัดอุบลราชธานีขึ้นอีกหลายเมือง เช่น ปี พ.ศ. 2357 โปรดฯให้ตั้งบ้านโคกพเนียง เป็นเมืองเขมราฐธานี
ปี พ.ศ. 2366 ยกบ้านนาคอขึ้นเป็นเมืองโขงเจียง (โขงเจียม) โดยขึ้นกับนครจำปาศักดิ์
ปี พ.ศ. 2388 ในรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกบ้านช่องนางให้เป็นเมืองเสนางคนิคม ยกบ้านน้ำโดมใหญ่ขึ้นเป็นเมืองเดชอุดม ให้หลวงอภัยเป็นหลวงยกบัตรหลวงมหาดไทยเป็นหลวงปลัด ตั้งหลวงธิเบศร์เป็นพระศรีสุระ เป็นเจ้าเมือง รักษาราชการแขวงเมืองเดชอุดม
ปี พ.ศ. 2390 ตั้งบ้านดงกระชุหรือบ้านไร่ ขึ้นเป็นเมืองบัวกัน ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นเมืองบัวบุณฑริก หรืออำเภอบุณฑริกในปัจจุบัน
ปี พ.ศ. 2401 ตั้งบ้านค้อใหญ่ ให้เป็นเมือง ขอตั้งท้าวจันทบรม เป็นพระอมรอำนาจ เป็นเจ้าเมือง ตั้งท้าวบุตตะเป็นอุปฮาด ให้ท้าวสิงหราชเป็นราชวงศ์ ท้าวสุริโยเป็นราชบุตร รักษาราชการเมืองอำนาจเจริญขึ้นกับเมืองเขมราฐ
ปี พ.ศ. 2406 ในรัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านกว้างลำชะโด ตำบลปากมูล เป็นเมืองพิบูลมังสาหารและให้ตั้งบ้านสะพือ เป็นเมืองตระการพืชผล ตั้งท้าวสุริยวงษ์ เป็นพระอมรดลใจ เป็นเจ้าเมือง
ปี พ.ศ. 2422 ในรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านท่ายักขุเป็นเมืองชานุมานมณฑล และให้ตั้งบ้านเผลา (บ้านพระเหลา) เป็นเมืองพนานิคม
ปี พ.ศ. 2423 โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านนากอนจอ เป็นเมืองวารินชำราบ
ปี พ.ศ. 2424 โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านจันลานาโดม เป็นเมืองโดมประดิษฐ์ (ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่อำเภอน้ำยืน)
ปี พ.ศ. 2425 โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านทีเป็นเมืองเกษมสีมา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นอำเภอม่วงสามสิบนั่นเอง
อุบลราชธานี จึงเป็นเมืองที่มีเขตการปกครองอย่างกว้างขวางที่สุด ทางด้านตะวันออกของภาคอีสานตอนล่างครอบคลุมที่ราบและแม่น้ำสายสำคัญของภาค อีสานถึง 3 สายด้วยกัน คือ แม่น้ำชี แม่น้ำมูล และแม่น้ำโขง อีกทั้งยังมีแม่น้ำสายเล็กๆที่มีกำเนิดจากเทือกเขาในพื้นที่ เช่น ลำเซบก ลำเซบาย ลำโดมใหญ่ เป็นต้น นางอุบล วังเจริญไพศาล นายยกเทศมลตรี
แม่น้ำทั้งหลายเหล่านี้ไหลผ่านที่ราบทางด้านเหนือและทางด้านใต้ทอด เป็นแนวยาวสู่ปากแม่น่ำมูลและแม่น้ำโขง ยังความอุดมสมบูรณ์ให้แก่พื้นที่ในบริเวณแถบนี้ทั้งหมด ทำให้เกิดสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์มาแต่ โบราณกาล [3]
ในปี พ.ศ. 2476 ได้มีการยกเลิกมณฑลทั้งประเทศ จังหวัดอุบลราชธานีซึ่งแยกออกมาจากมณฑลนครราชสีมาในขณะนั้น ได้กลายเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลังจากนั้นจังหวัดอุบลราชธานีก็ได้ถูกแบ่งออก โดยอำเภอยโสธรและอำเภอใกล้เคียงเป็นจังหวัดยโสธร ในปี พ.ศ. 2515 และต่อมาปี 2536 ได้ถูกแบ่งอีกครั้ง โดยอำเภออำนาจเจริญและอำเภอใกล้เคียงเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ ปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานีมีพื้นที่เป็นอันดับ 5 ของไทย และมีประชากรลำดับที่ 3 ของประเทศ

ลักษณะภูมิอากาศและอุตุนิยมวิทยา

ฤดูฝน จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเรื่อยไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม และมักปรากฏเสมอว่าฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม แต่ระยะเวลาการทิ้งช่วงมักจะไม่เหมือนกันในแต่ละปี ฤดูหนาว เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของประเทศ ทำให้ได้รับอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือก่อนภูมิภาคอื่น อุณหภูมิจะเริ่มลดต่ำลงตั้งแต่เดือนตุลาคมและจะสิ้นสุดปลายเดือนมกราคม ฤดูร้อน ถึงแม้ว่าเคยปรากฏบ่อยครั้งว่าอากาศยังคงหนาวเย็นยืดเยื้อมาจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยส่วนใหญ่แล้วอากาศจะ เริ่มอบอ้าว ในเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงประมาณต้นเดือนพฤษภาคมซึ่งอาจจะมีฝน เริ่มตกอยู่บ้างในปลายเดือนเมษายน

ลักษณะภูมิประเทศ

จังหวัดอุบลราชธานีตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า แอ่งโคราช (Khorat Basin) โดยสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยประมาณ 68 เมตร (227 ฟุต) ลักษณะโดยทั่วไปเป็นที่สูงต่ำ เป็นที่ราบสูงลาดเอียงไปทางตะวันออกมีแม่น้ำโขง เป็นแนวเขตกั้นจังหวัดอุบลราชธานีกับประเทศลาว มีแม่น้ำชีไหลมาบรรจบกับแม่น้ำมูลซึ่งไหลผ่านกลางจังหวัดจากทิศตะวันตกมายังทิศตะวันออกแล้วไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่อำเภอโขงเจียม และมีลำน้ำใหญ่ ๆ อีกหลายสาย ได้แก่ ลำเซบก ลำโดมใหญ่ ลำโดมน้อย และมีภูเขาสลับซับซ้อนหลายแห่งทางบริเวณชายแดนตอนใต้ ที่สำคัญคือ ทิวเขาบรรทัดและทิวเขาพนมดงรัก ซึ่งกั้นอาณาเขตระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีกับประเทศลาวและประเทศกัมพูชา
ลักษณะภูมิสัณฐานของจังหวัดอุบลราชธานี แบ่งออกโดยสังเขป ดังนี้
  • บริเวณที่เป็นสันดินริมน้ำ (river levee) เกิดจากตะกอนลำน้ำที่พัดพามาทับถม สภาพพื้นที่เป็นเนินสันดินริมฝั่งแม่น้ำโขง และบางบริเวณสันดินริมฝั่งลำเซบาย
  • บริเวณที่เป็นแบบตะพักลำน้ำ (terrace) ที่เกิดจากการกระทำของขบวนการของน้ำนานมาแล้ว ประกอบด้วยบริเวณที่เป็นลานตะพักลำน้ำระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูง ลักษณะพื้นที่ที่มีทั้งที่เป็นที่ราบแบบลูกคลื่นลอนลาดจนถึงลูกคลื่นลอนชัน จะอยู่ถัดจากบริเวณที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงขึ้นมา พื้นที่เหล่านี้จะพบในบริเวณทั่วไปของจังหวัด กล่าวคือทางตอนเหนือ ทางตะวันออก และทางใต้ บางแห่งใช้สำหรับทำนาและบางแห่งใช้สำหรับปลูกพืชไร่
  • บริเวณที่เป็นแอ่ง (depression) หรือที่ลุ่ตวมต่ำหลังลำน้ำ (backswamp) เกิดจากการกระทำของน้ำ พบบางแห่งในบริเวณริมแม่น้ำโขง แม่น้ำชี ลำเซบาย และลำโดมใหญ่ จะมีน้ำแช่ขังนานในฤดูฝน
  • กำลังของน้ำจะมีมากจนสามารถพัดพาเอาตะกอนเหล่านั้นออกมานอกหุบเขาได้ เมื่อมาถึงนอกหุบเขาหรือเชิงเขา สภาพพื้นที่ก็จะเป็นที่ราบทางน้ำไหลกระจายออกไป ทำให้กำลังของน้ำลดลง ก็จะตกตะกอนในบริเวณน้ำ จะพบอยู่ทางตอนใต้และทางตะวันตกของจังหวัด
  • บริเวณที่เป็นเนินที่เกิดจากการไหลของธารลาวา (lava flow hill) เป็นเนินเขาที่เกิดจากการไหลของธารลาวา ดินบริเวณนี้จะมีศักยภาพทางการเกษตรสูง ซึ่งเป็นผลจากการสลายตัวผุพังของหินบะซอลต์ บริเวณนี้จะพบอยู่ในอำเภอน้ำยืน
  • บริเวณที่ลาดเชิงเขา (foot hill slope) เป็นที่ลาดเชิงเขาที่ตะกอนบริเวณที่เกิดจากการกระทำของน้ำนานมาแล้วทับถมกัน บริเวณนี้จะพบอยู่ในอำเภอโขงเจียม อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอตระการพืชผล
  • บริเวณที่ลาดเชิงซ้อน (slope complex) ลักษณะเป็นภูเขาหรือทิวเขามีความลาดชันมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ จะพบบริเวณทิวเขาพนมดงรักในอำเภอน้ำยืน อำเภอนาจะหลวย และอำเภอบุณฑริก อีกแห่งหนึ่งคือ ทิวเขาภูเขาซึ่งจะพบมากในอำเภอโขงเจียมและอำเภอศรีเมืองใหม่

ทรัพยากรโดยสังเขป

ทรัพยากร ดิน จ.อุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่และมีประชากรมาก ดินเป็นทรัพยากรคิด เป็นร้อยละ 86.6 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด หรือประมาณ 10,299,063 ไร่ ด้านป่าไม้มีทั้งป่าเต็งรัง หรือป่าแดงมีอยู่ทั่วไป มีเขตป่าดงดิบในเขตอำเภอน้ำยืน และป่าผสม ส่วนป่าเบญจพรรณมีอยู่ในอำเภอเขมราฐ อำเภอบุณฑริก และอำเภอพิบูลมังสาหาร ไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้กระยาเลย ได้แก่ ไม้ยาง ไม้ตระแบก ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้เคี่ยม ไม้ชุมแพรก ไม้กันเกรา สภาพพื้นที่ป่าไม้จากการสำรวจเมื่อปี 2538 มีเนื้อป่าประมาณ 2,495 ตร.กม. หรือประมาณ 1.56 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 15.49 ของเนื้อที่ทั้งหมดของจังหวัดอุบลราชธานี สำหรับพื้นที่ป่าไม้ของจังหวัดอุบลราชธานี แบ่งได้ดังนี้ ป่าถาวร ตามมติ ครม.จำนวน 1 ป่า เนื้อที่ 77,312.50 ไร่ ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 46 ป่า เนื้อที่ 3,396,009.163 ไร่ พื้นที่ป่า สปก. จำนวน 40 ป่า เนื้อที่ 1,665,543.30 ไร่ ป่าอนุรักษ์ ตาม มติ ครม. จำนวน 10 ป่า เนื้อที่ 1,439,998.402 ไร่ ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย จำนวน 5 ป่า เนื้อที่ 880,220.00 ไร่ สวนป่า จำนวน 15 ป่า เนื้อที่ 20,985.73 ไร่ พื้นที่ป่าธรรมชาติ (รวม จ.อำนาจเจริญ) เนื้อที่ 24,292,656 ไร่
แร่ธาตุ จากการสำรวจของกรมทรัพยากรธรณี พบว่า จังหวัดอุบลราชธานีมีแร่อโลหะเพียงชนิดเดียว คือ เกลือหิน ซึ่งเจาะพบแล้ว 2 แห่งคือ อำเภอเมืองอุบลราชธานีและอำเภอตระการพืชผล นอกจากนี้ มีทรัพยากรแร่ที่อยู่ในรูปของหินชนิดต่าง ๆ อีกมากมาย สำหรับแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญคือ แม่น้ำโขง แม่น้ำมูล แม่น้ำชี ลำเซบก ลำเซบาย ลำโดมใหญ่ ลำโดมน้อย

การแบ่งเขตการปกครอง

การปกครองส่วนภูมิภาค

ในปัจจุบัน จังหวัดอุบลราชธานีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 25 อำเภอ 219 ตำบล 2469 หมู่บ้าน ได้แก่
แผนที่อำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี
1.อำเภอเมืองอุบลราชธานี
2.อำเภอศรีเมืองใหม่
3.อำเภอโขงเจียม
4.อำเภอเขื่องใน
5.อำเภอเขมราฐ
7.อำเภอเดชอุดม
8.อำเภอนาจะหลวย
9.อำเภอน้ำยืน
10.อำเภอบุณฑริก
11.อำเภอตระการพืชผล
12.อำเภอกุดข้าวปุ้น
14.อำเภอม่วงสามสิบ
15.อำเภอวารินชำราบ
19.อำเภอพิบูลมังสาหาร
20.อำเภอตาลสุม
21.อำเภอโพธิ์ไทร
22.อำเภอสำโรง
24.อำเภอดอนมดแดง
25.อำเภอสิรินธร
26.อำเภอทุ่งศรีอุดม
29.อำเภอนาเยีย
30.อำเภอนาตาล
31.อำเภอเหล่าเสือโก้ก
32.อำเภอสว่างวีระวงศ์
33.อำเภอน้ำขุ่น

การปกครองส่วนท้องถิ่น

มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 239 องค์กรแบ่งออกเป็น 1 เทศบาลนคร 4 เทศบาลเมือง 39 เทศบาลตำบล 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัด และ 194 องค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีรายชื่อเทศบาลดังนี้



[gmaps][/gmaps]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น