วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รถรับจ้างเที่ยวเปล่าอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด

รถรับจ้างเที่ยวเปล่าร้อยเอ็ด
รถรับจ้างร้อยเอ็ด

รถรับจ้างเที่ยวเปล่าอยู่จังหวัดร้อยเอ็ด ให้บริการด้าน,รถรับจ้างร้อยเอ็ด,รถหกล้อรับจ้างย้ายบ้าน,บริการงานขนส่ง ,รับจัดส่งสินค้า รถรับจ้าง ขน ส่ง ยก ย้าย สิ่งของต่างๆ บริการด้วยความซื่อตรง เราให้บริการ รถรับจ้างร้อยเอ็ด ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงท่านคิดจะย้าย คิดถึงรถขนของคิดถึงเราทันที "สมาคมรถรับจ้างไทย" ,รถรับจ้างร้อยเอ็ดด้วยราคายุติธรรม ไม่แพงอย่างที่ท่านคิด เพียงท่านยกหูหาเราเท่านั้น มีรถรับจ้างจังหวัดร้อยเอ็ด นัดล่วงหน้าราคาพิเศษ มีรถล่องทั่วไทย
...ยินดีต้อนรับบริการรถรับจ้าง ขนของ ย้ายบ้าน ขน ส่ง ยก ย้าย สิ่งของต่างๆ ราคาถูกมาก มีรถบรรทุกประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ...
รถบรรทุก
บริการรถรถจ้างร้อยเอ็ด รถรับจ้าง บริการขนย้าย 6 ล้อ 10 ล้อ 
บริการรถรับจ้างขนย้าย ร้อยเอ็ดไปทั่วไทย ท่านใดสนใจหรือมีงานเร่ง งานด่วน สามารถติดต่อเราได้ทันที บริการรถรับจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง มีรถ 6 ล้อ บริการขนย้ายสินค้า
พร้อม พนักงานยกของ งานบูธสินค้า งานก่อสร้าง ย้ายบ้าน สำนักงาน โดยทีมงานมืออาชีพมีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ท่านใดสนใจสามารถติดต่อ ทีมงาน สมาคมรถรับจ้างไทย บริการ รถรับจ้างร้อยเอ็ด พร้อมทั้งเรายัง บริการ,รถรับจ้างขนของย้ายบ้าน ร้อยเอ็ด ,รถ 10 ล้อรับจ้าง ขนย้ายเพื่องานแสดงโชว์ ออกบูธ ตามสถานที่ต่างๆ  รับผิดชอบงานทุกงาน ตรงต่อเวลา ด้วยการให้บริการด้านรถรับจ้างนานนับสิบปี เรารู้ความต้องการของท่าน เราตอบโจทย์ท่านได้ บริการด้านรถรับจ้าง ทั่วไทย ต้องเราเท่านั้น  การขนส่งชิ้นงานหรือสินค้าต่างๆก็สามารถเลือกใช้บริการรถรับจ้าง 4 ล้อ 6 ล้อ 10 ล้อ ร้อยเอ็ด ได้เช่นเดียวกัน  การขนส่งด้วยทีมงานมืออาชีพจะช่วยให้ชิ้นงานได้รับการขนส่งและการดูแลอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะชิ้นงานหรือสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากนอกจากนี้ยัง มีผ้าใบคลุมรถเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้สินค้าหรือชิ้นงานภายในเสียหาย รวมทั้งการเคลื่อนย้ายด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ ทำให้สามารถส่งชิ้นงานหรือสินค้าได้ตรงตามเวลา ประหยัดเงินและประหยัดแรงงานอีกด้วย สามารถเรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รถกระบะ
ในการดำเนินงานของผู้ให้บริการรถบรรทุกจังหวัดร้อยเอ็ดในทุกขั้นตอนนั้นได้ให้ความใส่ใจถึงวิธีการดำเนินงานที่รอบคอบมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย โดยก่อนที่เราจะออกให้บริการแก่ลุกค้านั้นเราจะมีการตรวจสอบสภาพรถบรรทุก และความพร้อมของรถ รวมถึงผู้ขับรถบรรทุกด้วยว่ามีความพร้อมที่เหมาะสมที่จะให้บริการหรือไม่ เนื่องจากว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ อีกทั้งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดถึง และเป็นสิ่งที่หลายๆคนหรือผู้ให้บริการหลายๆ รายได้มองข้ามไป เพราะฉะนั้นเราจึงได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

บริการรถรับจ้างคลอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัดร้อยเอ็ด

รถ6ล้อ
รถรับจ้าง,รถหกล้อรับจ้าง,รถสิบล้อรับจ้าง,รับจ้างย้ายบ้านร้อยเอ็ด
บริการรถสิบล้อรับจ้างทั่วไปในจังหวัดร้อยเอ็ด คุณคือผู้ที่เราสามารถให้การดูแลและรองรับความต้องการจากลูกค้าของเราทุกคนที่มีบ้านหรือที่อยู่อาศัยในจังหวัดร้อยเอ็ดดินแดนลุ่มแม่น้ำชี หากวันนี้ท่านต้องการให้เราช่วยเหลือกิจการขนส่ง วื่งรับงานส่วนใดของประเทศไทยก็ตาม เราก็สามารถช่วยเหลือท่านได้ครับ เพียงวันนี้ท่านชี้แจงความประสงค์ที่จะขอความช่วยเหลือจากเรา เรายินดีและมีความพร้อมใจในการให้บริการลูกค้าทุกคน ด้วยความเป็นกันเองและความเต็มใจอย่างยิ่งครับ
รถสิบล้อ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเกษตรวิสัย
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอจตุรพักตรพิมาน
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอจังหาร
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเชียงขวัญ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอทุ่งเขาหลวง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอธวัชบุรี
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอปทุมรัตต์
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอพนมไพร
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอโพนทราย
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอโพนทอง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอโพธิ์ชัย
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเมยวดี
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเมืองสรวง
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอศรีสมเด็จ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอเสลภูมิ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอสุวรรณภูมิ
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอหนองพอก
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภอหนองฮี
รถรับจ้างเที่ยวเปล่า อำเภออาจสามารถ



บริการถรับจ้างทั่วไปในจังหวัดร้อยเอ็ดเรามีบริการรถรับจ้างดีมาให้บริการท่านไม่ว่าจะเป็นรถรับจ้างขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่จะเป็นรถกระบะรถหกล้อรถสิบล้อรถยกรถลากรถโลเบทหางปลาหรือรถพ่วงเราก็มีมาให้บริการไม่ว่าคุณต้องการวิ่งงานในจังหวัดเดียวกันหรือวิ่งต่างจังหวัดเราก็มีมาให้บริการทุกท่านครับเรามุ่งเน้นพัฒนาบริการของเราเพื่อความสถะดวกสบายแก่ลูกค้าของเราทุกคนให้ได้รับบริการในระดับมาตรฐานที่ดีครับ
ทริคง่ายๆในการย้ายบ้าน ลองนำเอาไปใช้ดู
            ต่อไปนี้สำหรับใครที่กำลังจะย้ายบ้านหรือที่อยู่ใหม่ เพราะต้องการอยู่ใกล้ที่ทำงาน ใกล้โรงเรียนลูก หรือแม้แต่จะย้ายกลับไปอยู่ต่างจังหวัด และคงเป็นกังวลเกี่ยวกับการขนย้าย การแพ็คข้าวของเครื่องใช้ต่างๆไม่ว่าจะเป็น เครื่องครัว เสื้อผ้า เครื่องประกับชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่มีเต็มไปหมด เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ โต๊ะ ตู้ เตียง หนังสือเป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังสร้างความกังวลใจให้กับคุณอยู่ใช่ไหมค่ะ เพราะมันจะเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักเอาเสียมากๆเลยทีเดียว ไหนจะรถ ไหนจะค่าย้าย ไหนจะต้องทำความรู้จักกับเส้นทาง หรือที่ลำบากกันสุดเลยนั่นคือการเก็บของในการย้ายบ้านนั่นเองค่ะ
            แต่สิ่งต่างๆที่คุณกำลังกังวลสำหรับการย้ายบ้านอยู่นี้จะหมดไป หากคุณรู้จักวิธีการจัดการกับสิ่งของที่จะใช้จากที่อยู่เก่า ไปยังห้องใหม่ คอนโดใหม่ หรือว่าบ้านหลังใหม่ที่คุณเพิ่งสร้างเสร็จ สำหรับทริคง่ายๆที่จะนำมาฝากในวันนี้เป็นการเตรียมตัวก่อนการย้ายบ้าน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ และไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คุณคิดอีกต่อไป และเชื่อได้เลยว่าเป็นวิธีการที่แสนจะง่ายดาย และสามารถที่จะทำได้อย่างที่ไม่สิ้นเปลือง หรือต้องออกแรงเลยทีเดียว
            ขั้นตอนแรกเลยนะคะ นั่นคือการที่คุณเริ่มจากการหาอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีอยู่ที่สามารถใช้เก็บเสื้อผ้า สิ่งของต่างๆใส่หรือห่อไว้ได้ เพื่อการขนย้ายที่สะดวกและไม่ต้องเสียเงินซื้อถุงเพื่อมาใช้เก็บของ ลองมองหากะละมัง กระเป๋าที่สามารถเก็บสิ่งของใส่ได้ที่คุณมีหลายๆใบ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยการแพ็คสิ่งของเล็กๆน้อยๆ ที่มีเต็มไปหมดใส่เก็บไว้ ส่วนสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ขึ้นก็อาจจะเก็บรวบรวมใส่ในกะละมังที่มีอยู่ ซึ่งก็น่าจะลดปริมาณของต่างๆที่จะแพ็คก่อนการย้ายบ้านได้พอสมควร สำหรับเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ที่แขวนบนไม้แขวนและไม่อยากต้องเสียเวลา ถอดออกจากไม้แขวนแล้วพับเก็บอีกรอบ อาจจะหาวิธีที่เพิ่มความสะดวกมากขึ้น โดยหาซื้อถุงผ้าหรือถุงที่สำหรับใส่เสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่ แล้วนำเสื้อผ้าในตู้นั้นม้วนลงในถุงนั้นได้เลย ง่ายและไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย อีกทั้งประหยัดเวลาอีกด้วย
            เป็นขั้นตอนที่ง่ายดาย และไม่ว่าใครก็สามารถที่จะทำได้เลยนะคะ ต่อไปนี้การย้ายบ้านนั้นจะเรื่องที่ไม่ยุ่งยาก และไม่น่าเบื่อหน่ายต่อใครหลายๆคนอีกต่อไปเลยทีเดียว เพราะเคล็ดลับและวิธีการเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีเอาเสียมากๆเลยทีเดียว แล้วแบบนี้สำหรับผู้ที่ต้องการจะย้ายบ้านก็อย่าช้าที่จะนำสิ่งที่เราได้บอกกล่าวไปดำเนินการเสียล่ะ


บริการรถหกล้อรับจ้างจังหวัดร้อยเอ็ด

     บริการรถหกล้อรับจ้างจังหวัดร้อยเอ็ดเขามีรถที่พร้อมให้บริการกับคุณตลอดเวลาและสภาพรถก็แข็งแรงปลอดภัยถ้าคุณใช้บริการของเขาก็วางใจได้เลยจะหาบริษัทที่แสนดีแบบนี้คงจะหายากนะในยุคนี้ส่วนมากจะเห็นแก่ตัวกันมากมีแต่ที่นี่ละที่เขายังคิดว่าลูกค้ามีความสำคัญกับเขามากอยู่แล้วคุณละไม่คิดจะมาใช้บริการของเขากันหรือ หรือบอกต่อๆกันไปเพื่อให้ญาติพี่น้องเพื่อนคุณได้มาใช้บริการดีๆกันนะ ราคาก็คุยกันได้วางใจได้เลย


บริการรถกระบะ4ล้อรับจ้างจังหวัดร้อยเอ็ด

    บริการรถกระบะรับจ้างจังหวัดร้อยเอ็ดเขายังเอาใจใส่และแทคแคร์ลูกค้าดีมากใครที่สนใจอยากจะใช้บริการโทรติดต่อกันได้ตลอดเวลาถ้าคุณได้ใช้บริการของเขารับรองคุณจะต้องติดใจไม่มีวันลืมแน่ ส่วนเรื่องราคาที่คิดว่าจะแพงนั้นไม่เป็นอย่างที่ท่านคิดแน่นอนเพราะที่นี่ราคาค่าจ้างก็ถูกและยังมีรถให้ท่านได้เลือกใช้บริการกันอยู่มากมายที่นี่ให้บริการแบบเป็นกันเองและยังเป็นมืออาชีพในการให้บริการแก่ลูกค้ารับรองหากทุกท่านได้มาใช้บริการจะต้องติดใจอย่างแน่นอน


บริการรถสิบล้อรับจ้างร้อยเอ็ด

รถรับจ้างขนย้ายร้อยเอ็ดหมายความว่าเอ็ดในบริการที่แนวข้าพเจ้ามากใจให้บริการมากเกี่ยวข้องออกจากเป็นบริการชนิดที่ได้รับความการกำหนดพลัดพรากคนทั่วไปมากขึ้นบ่อยในทั่วเป็น หมายความว่าง่ายบริการที่เรียบง่าย รอบรู้กล่าวตอบรับสนองต่อความต้องการขอร้องลูกค้าได้ดี และณมหุรดีอันเดียวขัดขวางทางวิ่งบริษัทของเราเองก็รอบรู้กระทำดอกผลได้ไม่บางตาคราวอันเดียวจากการให้บริการรถรับจ้างขนส่งเหล่านี้ซึ่งถือได้ว่าหมายถึงดอกผลประโยชน์ต้นแบบ win - win กันทั้งสองระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการรถรับจ้างขนย้ายอย่างเรา


และข้าพเจ้าเชื่อหมายความว่าทำนองยิ่งว่าเพื่อจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว การให้รถรับจ้างในชนิดรถบรรทุกของซื้อของขายร้อยเอ็ดของข้าพเจ้านั้นเป็นหุ้นส่วนที่ได้ให้บริการรถรับจ้างในลักษณะรถบรรทุกของซื้อของขายชั้นนำ ที่ได้ให้บริการในพท.มาสู่นานกว่า 10 ปี พร้อมทั้งฉันมั่นใจว่าไม่ว่าจะไปถามใครที่อยู่อยู่ที่นี่หรือเคยกินบริการรถรับจ้างจังหวัดร้อยเอ็ดมาบ้างก็จงรู้จักฉันเป็นอย่างดี และมีความประทับตราใจในการให้บริการของฉันอยู่ไม่เล็กน้อยเลยเชียวไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฏเกณฑ์การให้บริการระดับสากล ข้อคดีด่วนและความปลอดภัยในการเข้าใช้บริการของผู้ใช้บริการ เรามั่นใจว่าข้าสามารถขานโจทย์สิ่งของกองนี้ได้เป็นทำนองดีนั่นเอง พร้อมกับในข้อความย่อยนี้บริษัทของข้าพเจ้าได้ให้บริการรถรับจ้างในลักษณะรถบรรทุกผลิตภัณฑ์อยู่รวด 3 แบบคือ
รถหกล้อรับจ้างร้อยเอ็ด ซึ่งรถยนต์ประเภทพรรค์นี้ตรงนั้นได้รับความแบบไม่เบาในวงการอาณาประชาราษฎร์ทั่วไปในสังคมคนที่ต้องการใช้งานเป็นครั้งคราว ใช่ไหมอาจจะใช้งานเลี้ยงบ่อยอย่างไรก็ดีครั้งละ
ส่วนแบ่งมิมากนักก็ได้เช่นเดียวกัน เหตุสำคัญนอกเหนือจากไปค่าเงินค่าจ้างงานที่สมสมจบยังมีเหตุเครื่องใช้มูลค่าค่าจ้างงานแตะต้องที่สุดในแวดวงรถบรรทุกที่ข้าพเจ้าได้ให้บริการอยู่ด้วยข้างนอกจากนี้รถหกล้อรับจ้างไม่เพียงแต่รับงานขนของ ขนบ้านหรือขนส่งของซื้อของขายเฉพาะนะ งานเลี้ยงจำพวกการทุกหินมัตติกา พาลุก ของซื้อของขายเพื่อให้การก่อสร้างก็ได้เช่นกัน


ใขณะที่รถ 10 ล้อรับจ้างร้อยเอ็ดนั้นเรามักจะพบการใช้งานในการขนถ่ายขนส่งของซื้อของขายทางการเกษตรเป็นต้นแบบ เช่น ข้าว หรือ อ้อย หรือไม่อาจะรวมเบ็ดเสร็จไปอาบันของซื้อของขายที่เกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์ด้วย เช่น ทรายและดิน ฯลฯ เพราะว่าสินค้าเหล่านี้บางชนิดมีขนาดเล็กแต่มีจำนวนมาก ไม่ก็มีขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานรถแม่พิมพ์นี้ ถ้าแม้ว่าค่าว่าจ้างนั้นจะมีราคาจ้างงานมีราคากระทั่งรถหกล้อก็ตาม
ข้างในขณะเดียวกันเรื่องของมูลค่าการจ้างงานรถสิบล้อสินค้านั้นรถสิบล้อประเภทรถเทรลเลอร์และรถเทรลเลอร์จังหวัดร้อยเอ็ดจะมีราคาค่าจ้างงานสูงที่สุด อย่างไรก็ดีก็มีขนาดในการขนต่อครั้งมากที่สุดเช่นกัน ครั้นแล้วของที่จะใช้งานรถบรรทุกในการขนส่งจึงเป็นของที่ค่าและของซื้อของขายทางการเกษตรโดยมาก ไม่ใช่หรือพวกรถขนาดใหญ่ก็แบบใช้รถเทรนเลอร์ในการเคลื่อนย้ายเช่นกัน


 เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง:  http://xn--12ccp1dfod4eca5f5hmi.net/ 

facebook:                    https://www.facebook.com/RoiEtcar


รถขนส่งจุดที่ 1 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง เชียงราย
รถขนส่งจุดที่ 2 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง เชียงใหม่ 
รถขนส่งจุดที่ 3 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง น่าน 
รถขนส่งจุดที่ 4 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง พะเยา 
รถขนส่งจุดที่ 5 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง แพร่ 
รถขนส่งจุดที่ 6 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง แม่ฮ่องสอน 
รถขนส่งจุดที่ 7 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ลำปาง 
รถขนส่งจุดที่ 8 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ลำพูน 
รถขนส่งจุดที่ 9 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง อุตรดิตถ์ 
รถขนส่งจุดที่ 10 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง จันทบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 11 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ฉะเชิงเทรา 
รถขนส่งจุดที่ 12 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ชลบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 13 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ตราด 
รถขนส่งจุดที่ 14 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ปราจีนบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 15 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ระยอง 
รถขนส่งจุดที่ 16 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สระแก้ว 
รถขนส่งจุดที่ 17 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง กาฬสินธุ์ 
รถขนส่งจุดที่ 18 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ขอนแก่น 
รถขนส่งจุดที่ 19 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ชัยภูมิ 
รถขนส่งจุดที่ 20 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง นครพนม 
รถขนส่งจุดที่ 21 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง นครราชสีมา 
รถขนส่งจุดที่ 22 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง บึงกาฬ 
รถขนส่งจุดที่ 23 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง บุรีรัมย์ 
รถขนส่งจุดที่ 24 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง มหาสารคาม 
รถขนส่งจุดที่ 25 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง มุกดาหาร 
รถขนส่งจุดที่ 26 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ยโสธร 
รถขนส่งจุดที่ 27 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ร้อยเอ็ด 
รถขนส่งจุดที่ 28 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง เลย 
รถขนส่งจุดที่ 29 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สกลนคร 
รถขนส่งจุดที่ 30 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สุรินทร์ 
รถขนส่งจุดที่ 31 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ศรีสะเกษ 
รถขนส่งจุดที่ 32 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง หนองคาย 
รถขนส่งจุดที่ 33 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง หนองบัวลำภู 
รถขนส่งจุดที่ 34 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง อุดรธานี 
รถขนส่งจุดที่ 35 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง อุบลราชธานี 
รถขนส่งจุดที่ 36 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง อำนาจเจริญ 
รถขนส่งจุดที่ 37 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง กำแพงเพชร 
รถขนส่งจุดที่ 38 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ชัยนาท 
รถขนส่งจุดที่ 39 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง นครนายก 
รถขนส่งจุดที่ 40 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง นครปฐม 
รถขนส่งจุดที่ 41 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง นครสวรรค์ 
รถขนส่งจุดที่ 42 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง นนทบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 43 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ปทุมธานี 
รถขนส่งจุดที่ 44 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง พระนครศรีอยุธยา 
รถขนส่งจุดที่ 45 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง พิจิตร 
รถขนส่งจุดที่ 46 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง พิษณุโลก 
รถขนส่งจุดที่ 47 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง เพชรบูรณ์ 
รถขนส่งจุดที่ 48 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ลพบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 49 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สมุทรปราการ 
รถขนส่งจุดที่ 50 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สมุทรสงคราม 
รถขนส่งจุดที่ 51 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สมุทรสาคร 
รถขนส่งจุดที่ 52 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สิงห์บุรี 
รถขนส่งจุดที่ 53 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สุโขทัย 
รถขนส่งจุดที่ 54 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สุพรรณบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 55 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สระบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 56 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง อ่างทอง 
รถขนส่งจุดที่ 57 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง อุทัยธานี 
รถขนส่งจุดที่ 58 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง กระบี่ 
รถขนส่งจุดที่ 59 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ชุมพร 
รถขนส่งจุดที่ 60 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ตรัง 
รถขนส่งจุดที่ 61 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง นราธิวาส 
รถขนส่งจุดที่ 63 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ปัตตานี 
รถขนส่งจุดที่ 64 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง พังงา 
รถขนส่งจุดที่ 65 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง พัทลุง 
รถขนส่งจุดที่ 66 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง เก็ต 
รถขนส่งจุดที่ 67 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ระนอง 
รถขนส่งจุดที่ 68 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สตูล 
รถขนส่งจุดที่ 69 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง งขลา 
รถขนส่งจุดที่ 70 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง สุราษฎร์ธานี 
รถขนส่งจุดที่ 71 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ยะลา  
รถขนส่งจุดที่ 72 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง กาญจนบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 73 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ตาก 
รถขนส่งจุดที่ 74 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ประจวบคีรีขันธ์ 
รถขนส่งจุดที่ 75 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง เพชรบุรี 
รถขนส่งจุดที่ 76 รถรับจ้างขนส่ง ร้อยเอ็ด ไปถึง ราชบุรี 

แผ่นที่ท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด 

แผ่นที่ท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด   http0817684439.blogspot.com

แผนที่ตัวเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด

แผนที่ตัวเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด   http0817684439.blogspot.com
ร้อยเอ็ด เดิมสะกดว่า ร้อยเอ็จ[4] เป็นจังหวัดบริเวณลุ่มแม่น้ำชีในภาคอีสานตอนบนของไทย

ชื่อ

เคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยปรากฏชื่อในตำนานอุรังคธาตุว่า สาเกตนคร หรือ เมืองร้อยเอ็ดประตู อันเนื่องมาจากเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรื่องโดยที่มีเมืองขึ้นจำนวนมาก การตั้งชื่อเมืองว่า "ร้อยเอ็จประตู" นั้น น่าจะเป็นการตั้งชื่อเชิงอุปมาอุปไมยให้เป็นศิริมงคลและแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองมากกว่าการที่เมืองจะมีประตูเมืองอยู่จริงถึงร้อยเอ็ดประตู ซึ่งการตั้งชื่อเพื่อแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองผ่านการมีประตูเมืองจำนวนมากนั้น น่าจะได้รับอิทธิพลหรือแบบอย่างมาจากเมืองหรืออาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองในสมัยโบราณอย่างทวารวดีซึ่งมีความหมายว่าเมืองที่มีประตูล้อมรอบเป็นกำแพง หรืออย่างเมืองหงสาวดีที่มีประตูเมืองรายล้อมกำแพงเมืองอยู่ยี่สิบประตู ซึ่งแต่ละประตูนั้นจะตั้งชื่อตามเมืองขึ้นของตน เช่น เชียงใหม่ อโยธยา จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น นอกจากนั้นการตั้งชื่อเมืองให้ดูยิ่งใหญ่เกินจริงเพื่อความเป็นสิริมงคลก็ถือเป็นธรรมดาของการตั้งชื่อเมืองหรืออาณาจักรในสมัยโบราณ
ส่วนข้อสันนิษฐานที่ว่าเมืองร้อยเอ็ดน่าจะมีเพียงสิบเอ็ดหัวเมือง อันเนื่องมาจากการเขียนจำนวนตามแบบภาษาลาวโบราณ โดยเลขสิบเอ็ดจะประกอบไปด้วยเลขสิบกับเลขหนึ่ง (10+1 =101) ทำให้เกิดการอ่านที่ผิดเพี้ยนเป็นคำว่าร้อยเอ็ดนั้น น่าจะเป็นสมมุติฐานที่คลาดเคลื่อน เพราะจากการตรวจสอบข้อความตัวอักษรธรรมในต้นฉบับใบลานเรื่องอุรังคธาตุไม่ปรากฏว่ามีจุดไหนที่เขียนชื่อเมืองร้อยเอ็ดเป็นตัวเลข แต่กลับมีการเขียนถึงเมืองร้อยเอ็ดเป็นตัวอักษรทุกจุด (มีทั้งหมด 59 จุด) และไม่มีข้อความตอนใดที่บรรยายแจกแจงรายชื่อหัวเมืองทั้ง 11 แห่ง (อ่านเพิ่มเติมที่ ร้อยเอ็ด คือ ร้อยเอ็ด มิใช่สิบเอ็ด หรือ 10 + 1 โดย สุวัฒน์ ลีขจร) [1]
ประกอบกับตามธรรมดาของการตั้งชื่อต่างๆไม่ว่าจะคนหรือเมืองนั้น จะต้องมีการออกเสียงก่อนถึงจะมีการเขียนเป็นตัวอักษรหรือตัวเลข ซึ่งหากชื่อเมืองแต่เดิมชื่อว่าเมืองสิบเอ็ดประตูแล้ว จึงมีการจารึกชื่อเป็นตัวเลขอย่าง 101 นั้น คำว่าสิบเอ็ดก็ไม่น่าจะออกเสียงเพี้ยนจนมาเป็นคำว่าร้อยเอ็ดอย่างในปัจจุบันได้ ดังนั้นชื่อเมืองร้อยเอ็ดหรือเมืองร้อยเอ็ดประตูจึงน่าจะเป็นชื่อเมืองที่มีมาอยู่แต่แรกเริ่มดังปรากฏในหลักฐานสำคัญ คือ ตำนานอุรังคธาตุฉบับกรมศิลป์ฯ
สรุปความหมาย ก็คือ มีคำ 2 คำที่ต้องทำความเข้าใจ คำแรก คือคำว่า ร้อยเอ็ด แปลว่าจำนวนที่มากมายจนนับไม่ถ้วน และ อีกคำหนึ่ง ก็คือ คำว่า เมืองร้อยเอ็ดประตู ซึ่งมีนักวิชาการ ได้ตีความว่าน่าจะหมายถึง ทวารวดี เพราะ ทวาร แปลว่า ช่อง, รู, ประตู วติ หรือ วดี แปลว่า เขต หรือ รั้ว ทวารดี จึงแปลว่า เมืองที่มีประตูเป็นรั้ว ซึ่งเปรียบเทียบแล้วน่าจะมีความหมายที่ใกล้เคียงกับคำว่าเมืองร้อยเอ็ดประตูที่สุด

ประวัติศาสตร์

สมัยก่อนประวัติศาสตร์

พบหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ทั่วไปในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด มีการขุดพบแหล่งโบราณคดีบ้านเมืองบัวซึ่งสันนิษฐานว่า ชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ค้นพบมีอายุประมาณ 1,800-2,500 ปีมาแล้ว และมักมีถิ่นฐานอยู่บริเวณลุ่มน้ำกับใกล้แหล่งเกลือสินเธาว์[ต้องการอ้างอิง] อิทธิพลของพุทธศาสนาภายใต้วัฒนธรรมทวารวดีได้เข้ามาเมื่อปลายพุทธศตวรรษที่ 12-15 มีหลักฐานสมัยทวารวดีที่สำคัญ เช่น คูเมืองร้อยเอ็ด เจดีย์เมืองหงส์ในเขตอำเภอจตุรพักตรพิมาน กลุ่มใบเสมาบริเวณหนองศิลาเลขในเขตอำเภอพนมไพร และพระพิมพ์ดินเผาปางนาคปรกที่เมืองไพรในเขตอำเภอเสลภูมิ[ต้องการอ้างอิง]
วัฒนธรรมจากอาณาจักรขอมได้แพร่เข้ามาในพุทธศตวรรษที่ 16 ปรากฏหลักฐานอยู่มาก เช่น สถาปัตยกรรมในรูปแบบของปราสาทหิน เช่น กู่กาสิงห์ในเขตอำเภอเกษตรวิสัย ปรางค์กู่ในเขตอำเภอธวัชบุรี กู่พระโกนาในเขตอำเภอสุวรรณภูมิ และประติมากรรมที่เป็นรูปเคารพทางศาสนาที่เป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่ทำจากหินทรายและโลหะเป็นจำนวนมาก

สมัยทวารวดี

การตั้งถิ่นฐานของชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องถึงสมัยทวารวดี เมืองที่สร้างขึ้นมีรูปร่างและที่ตั้งไม่แน่นอน แต่มีลักษณะที่สำคัญคือ มีคูน้ำและคันดิน ล้อมรอบชุมชน ร่องรอยที่ยังเห็นอยู่ของคูเมืองและคันดินได้แก่บริเวณด้านตะวันออกของวัดบูรพาภิราม ด้านใต้ของเมืองบริเวณโรงเรียนสตรีศึกษา นอกจากนี้ยังพบอยู่ในอำเภอต่าง ๆ ของร้อยเอ็ด ได้แก่ บ้านเมืองไพร (เขตอำเภอเสลภูมิ) บ้านเมืองหงส์ (เขตอำเภอจตุรพักตรพิมาน) บ้านสีแก้ว (เขตอำเภอเมืองร้อยเอ็ด) หนองศิลาเลข บ้านชะโด (เขตอำเภอพนมไพร) และบ้านดงสิงห์ (เขตอำเภอจังหาร)[ต้องการอ้างอิง]

สมัยลพบุรี

พบโบราณสถานและโบราณวัตถุสมัยลพบุรีหรือละโว้ที่เป็นที่รู้จักดี ได้แก่ ปราสาทหินกู่กาสิงห์ในเขตอำเภอเกษตรวิสัย กู่พระโกนาในเขตอำเภอสุวรรณภูมิ ปรางค์กู่ในเขตอำเภอธวัชบุรี กู่โพนระฆัง กู่โพนวิท กู่บ้านเมืองบัวในเขตอำเภอเกษตรวิสัย กู่คันทนามในเขตอำเภอโพนทราย สำหรับโบราณวัตถุ ได้แก่ รูปเคารพและเครื่องมือเครื่องใช้ในศาสนา เช่นพระพุทธรูป เทวรูป ศิวลึงค์ ภาชนะดินเผา คันฉ่องสำริด กำไลสำริด เป็นต้น

สมัยอาณาจักรล้านช้าง

ได้ปรากฏชื่อเมืองร้อยเอ็ดในเอกสารของลาวว่า พระเจ้าฟ้างุ้มเมื่อดำรงตำแหน่งเป็นบุตรเขยเมืองขอม ได้นำไพร่พลมารวมกำลังกันอยู่ที่เมืองร้อยเอ็ด ก่อนยกกำลังไปยึดเมืองเชียงทอง (หลวงพระบาง) ได้สำเร็จแล้วจึงได้สถาปนาอาณาจักรล้านช้าง
หลักฐานเกี่ยวกับเมืองร้อยเอ็ดขาดหายไปประมาณ 400 ปี จนถึงประมาณปี พ.ศ. 2231 เมืองเวียงจันทน์เกิดความไม่สงบ พระครูโพนสะเม็ดพร้อมผู้คนประมาณ 3,000 คนได้เชิญเจ้าหน่อกษัตริย์อพยพลงมาตามแม่น้ำโขง แล้วมาตั้งมั่นอยู่ที่บริเวณเมืองจำปาศักดิ์ ผู้ปกครองเมืองจำปาศักดิ์มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระครูโพนสะเม็ด จึงได้นิมนต์ให้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและปกครองเมืองจำปาศักดิ์ ต่อมาเจ้าหน่อกษัตริย์ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์พระนามว่า เจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูร ได้ขยายอิทธิพลไปในดินแดนต่าง ๆ เหนือสองฝั่งแม่น้ำโขง ได้ตั้งเมืองใหม่ขึ้นหลายแห่งและส่งบริวารไปปกครอง เช่น เมืองเชียงแตง เมืองสีทันดร เมืองรัตนบุรี เมืองคำทอง เมืองสาละวัน และเมืองอัตตะปือ เป็นต้น
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2256 เจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูรได้มอบหมายให้อาจารย์แก้วควบคุมไพร่พลประมาณ 3,000 คน มาสร้างเมืองขึ้นใหม่ในดินแดนอีสานตอนล่าง เรียกว่า เมืองท่ง ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอสุวรรณภูมิ มีเจ้าเมืองต่อมาคือ ท้าวมืด ท้าวทน ท้าวเชียง และท้าวสูน

สมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์

พระยาขัติยะวงษา (ทน)
ปี พ.ศ. 2318 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้โปรดเกล้าฯ ให้พระยากรมท่าและพระยาพรหมเดินทางมาดูแลหัวเมืองในภาคอีสาน ท้าวทนจึงได้เข้ามาขออ่อนน้อม พระยาทั้งสองจึงมีใบบอกไปยังกรุงธนบุรีขอตั้งท้าวทนเป็นเจ้าเมือง โดยยกบ้านกุ่มฮ้างขึ้นเป็น เมืองร้อยเอ็ด ตามนามเดิม ท้าวทนได้รับแต่งตั้งเป็นพระขัติยะวงษา นับว่าเป็นเจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนแรก ส่วนเมืองท่งนั้นบรรดากรมการเมืองเห็นว่าเป็นชัยภูมิที่ไม่เหมาะสม จึงได้ย้ายไปตั้งบริเวณดงท้าวสาร และให้ชื่อว่า เมืองสุวรรณภูมิ นับแต่นั้นมาทั้งเมืองร้อยเอ็ดและเมืองสุวรรณภูมิต่างมีฐานะขึ้นตรงต่อกรุงธนบุรีเช่นเดียวกัน
พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีแห่งใหม่ ทำให้เมืองร้อยเอ็ดและบรรดาหัวเมืองอีสานล้วนต้องขึ้นตรงต่อกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนเมืองร้อยเอ็ดก็ได้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนมีฐานะทางการเมืองและความสำคัญเหนือเมืองสุวรรณภูมิในเวลาต่อมา
พ.ศ. 2326 พระขัติยะวงษา (ทน) ถึงแก่กรรม ท้าวสีลังบุตรคนโตได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระขัติยะวงษา เจ้าเมืองร้อยเอ็ดสืบแทน ต่อมาในปี พ.ศ. 2369 เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์ เมื่อกองทัพกบฏถูกตีแตกถอยร่นกลับมา กำลังทหารจากเมืองร้อยเอ็ดได้เข้าโจมตีซ้ำเติมจนพวกกบฏแตกพ่าย พระขัติยะวงษา (สีลัง) มีความดีความชอบได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาขัติยะวงษา
ในปี พ.ศ. 2418 เกิดสงครามปราบฮ่อที่เวียงจันทน์และหนองคาย เจ้าเมืองอุบลได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้ายกกำลังไปปราบ โดยเกณฑ์กำลังพลจากหัวเมืองตะวันออกเฉียงเหนือไปช่วยปราบกบฏ เมื่อกองทัพยกมาถึงเมืองร้อยเอ็ด พระขัติยะวงษา (สาร) และราชวงศ์ (เสือ) ได้สมทบกำลังไปปราบฮ่อด้วย เมื่อเสร็จศึก ราชวงศ์ (เสือ) ได้รับแต่งตั้งเป็นพระขัติยะวงษา
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปฏิรูปการปกครองในระบบมณฑลเทศาภิบาล จึงให้รวมหัวเมืองอีสานเข้าด้วยกัน แล้วแบ่งออกเป็น 4 กองใหญ่ แต่ละกองมีข้าหลวงกำกับการปกครองกองละ 1 คน และมีข้าหลวงใหญ่กำกับราชการอีกชั้นหนึ่งอยู่ที่เมืองจำปาศักดิ์ กองใหญ่ทั้ง 4 กอง ได้แก่ หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออก หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือ หัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ และหัวเมืองลาวฝ่ายกลาง เมืองร้อยเอ็ดเป็นหัวเมืองเอกในจำนวน 12 เมืองของหัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือ มีศูนย์การบริหารหัวเมืองอยู่ที่เมืองอุบลราชธานี ในปี พ.ศ. 2437 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้ตราระบบการปกครองเทศาภิบาลขึ้นใช้ปกครองส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ หัวเมืองลาวกาวจึงเปลี่ยนฐานะเป็นมณฑลลาวกาว ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ และมณฑลอีสานตามลำดับ
ในปี พ.ศ. 2450 เมืองร้อยเอ็ดได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นบริเวณร้อยเอ็ด โดยแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 เมือง คือเมืองร้อยเอ็ด เมืองสุวรรณภูมิ เมืองมหาสารคาม เมืองกมลาไสย และเมืองกาฬสินธุ์
ในปี พ.ศ. 2453 สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ทรงเห็นด้วยกับข้อเสนอของเทศาภิบาลข้าหลวงมณฑลอีสานว่า ควรแยกมณฑลอีสานออกเป็น 2 มณฑล คือ มณฑลอุบลราชธานีและมณฑลร้อยเอ็ด พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้เป็นไปตามที่เสนอ มณฑลร้อยเอ็ดจึงมีเขตปกครอง 3 จังหวัดคือ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดกาฬสินธุ์
พ.ศ. 2465 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้รวมมณฑลร้อยเอ็ด มณฑลอุบล และมณฑลอุดร เป็นภาคเรียกว่า ภาคอีสาน มีอุปราชประจำภาคอยู่ที่เมืองอุดรธานี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2468 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกภาคอีสาน แล้วปรับเปลี่ยนเป็นการปกครองระบบมณฑลตามเดิม ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2469 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ยุบมณฑลร้อยเอ็ด มณฑลอุบล และมณฑลอุดร แล้วให้เปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัด ขึ้นต่อมณฑลนครราชสีมา
ระหว่างปี พ.ศ. 2445-2455 ได้เกิดกบฏผีบุญขึ้นในจังหวัดร้อยเอ็ดอันมีสาเหตุมาจากการยกเลิกการปกครองแบบดั้งเดิม โดยยกเลิกตำแหน่งเจ้าเมือง แล้วแต่งตั้งข้าราชการจากส่วนกลางไปปกครอง ทำให้เกิดการต่อต้านจากกลุ่มเจ้าเมืองเดิมและทายาท กบฏผีบุญเกิดขึ้นจากการมีผู้อ้างตัวเป็นผู้วิเศษตามท้องถิ่นต่าง ๆ ในภาคอีสาน ในที่สุดก็ถูกทางราชการปราบได้ราบคาบ
ในปี พ.ศ. 2469 อำมาตย์เอกพระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ (ทอง จันทรางศุ) ข้าหลวงจังหวัดร้อยเอ็ดเห็นว่า บึงพลาญชัย (เดิมใช้ว่าบึงพระลานชัย) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองร้อยเอ็ดตื้นเขิน ถ้าปล่อยทิ้งไว้บึงก็จะหมดสภาพไป จึงได้ชักชวนชาวบ้านจากทุกอำเภอมาขุดลอกบึงเพื่อให้มีน้ำขังอยู่ได้ตลอดปี ได้ดำเนินการขุดลอกบึงทั้งกลางวันและกลางคืนอยู่ 2 ปี มีชาวบ้านมาร่วมขุดลอกบึงถึง 40,000 คน นับว่าเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของไทยที่ควรจารึกไว้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกหลานไทยต่อไปชั่วกาลนาน ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจนเป็นมรดกที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ดมาตราบเท่าทุกวันนี้

ภูมิศาสตร์

ที่ตั้งและอาณาเขต

จังหวัดร้อยเอ็ดตั้งอยู่ตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างละติจูดที่ 15 องศา 24 ลิปดาเหนือ ถึง 16 องศา 19 ลิปดาเหนือ และลองจิจูดที่ 103 องศา 16 ลิปดาตะวันออก ถึง 104 องศา 21 ลิปดาตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร โดยทางรถยนต์ประมาณ 512 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งสิ้น 8,299.46 ตารางกิโลเมตร หรือ 5,187,156 ไร่ มีเขตแดนติดต่อกับจังหวัดอื่นดังนี้

ลักษณะภูมิประเทศ

จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 120-160 เมตร มีภูเขาทางตอนเหนือซึ่งติดต่อจากเทือกเขาภูพาน บริเวณตอนกลางของจังหวัด มีลักษณะเป็นที่ราบลูกคลื่น บริเวณตอนล่างมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำมูลและสาขา ได้แก่ ได้แก่ลำน้ำชี ลำน้ำพลับพลา ลำน้ำเตา เป็นต้น บริเวณที่ราบต่ำอันกว้างขวาง เรียกว่า ทุ่งกุลาร้องไห้ มีพื้นที่ประมาณ 80,000 ไร่ มีลักษณะเป็นที่ราบแอ่งกระทะ

การคมนาคม

  • ทางรถยนต์: ห่างจากกรุงเทพมหานคร ระยะทางประมาณ 520 กม. เส้นทางที่สะดวกคือใช้เส้นทางถนนพหลโยธินเข้าสู่สระบุรี และเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ผ่านนครราชสีมา เมืองพล บ้านไผ่
แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนแจ้งสนิท ผ่านมหาสารคาม แล้วเข้าสู่ร้อยเอ็ด
  • ทางรถโดยสารประจำทาง:โดยที่สถานีขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ กับห้างเทสโก้โลตัส ร้อยเอ็ด
    • โดยมีหลายบริษัทที่บริการเที่ยวรถจากรุงเทพฯ สู่ ร้อยเอ็ด เช่น
      • บริษัท ขนส่ง จำกัด
      • บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด
      • บริษัท สหพันธ์ร้อยเอ็ดทัวร์ จำกัด
      • และยังมีหลายบริษัทที่เปิดให้บริการ โดยผ่านร้อยเอ็ด หลายบริษัท
    • ในอำเภอต่างๆ ก็มีรถประจำทางบริการ ได้แก่ โพนทอง เสลภูมิ สุวรรณภูมิ พนมไพร ปทุมรัตน์ ศรีสมเด็จ สรุปคือมีรถไปทุกอำเภอ
  • นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารประจำทางไปในจังหวัดต่างๆด้วย เช่น เชียงใหม่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ สุรินทร์ บุรีรัมย์ เป็นต้น
  • ทางรถไฟ: จังหวัดร้อยเอ็ดนั้น ปัจจุบันยังไม่มีทางรถไฟตัดผ่าน อย่างไรก็ตามสามารถใช้บริการได้ที่สถานีรถไฟในจังหวัดขอนแก่น ดังนี้
    • สถานีรถไฟขอนแก่น จากนั้นต่อรถยนต์มาจังหวัดร้อยเอ็ด (อำเภอเมืองร้อยเอ็ด)
  • ในอนาคตมีโครงการก่อสร้างรถไฟ สายบ้านไผ่ ร้อยเอ็ด นครพนม และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะเปิดใช้ในปี 2562
  • ทางเครื่องบินท่าอากาศยานร้อยเอ็ด หรือ สนามบินร้อยเอ็ด (อังกฤษ: Roi Et Airport) ตั้งอยู่เลขที่ 135 ถนนร้อยเอ็ด-โพนทอง (ทางหลวงหมายเลข 2044) ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี
จังหวัดร้อยเอ็ด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 11 กิโลเมตร เป็นท่าอากาศยานในสังกัดกรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม[1] ประกอบด้วยอาคารที่พักผู้โดยสารขนาด 3,013 ตารางเมตร ประตูผู้โดยสารขาเข้าและขาออกอยู่ชั้นเดียวกัน ทางวิ่ง (รันเวย์) 45 x 2,100 เมตร
    • ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด มีสายการบินที่ให้บริการอยู่ 2 สายการบิน โดยสายการบินนกแอร์ ให้บริการทุกวันๆละ 3 เที่ยวบิน และสายการบินไทยแอร์เอเชีย ให้บริการทุกวันๆละ 2 เที่ยวบิน
รวมวันละ 5 เที่ยวบิน
  • การคมนาคมภายในจังหวัด
    • ในการเดินทางภายในจังหวัดก็มีรถโดยสารประจำทางให้บริการ และรถสองแถว มอเตอร์ไซค์รับจ้าง สามล้อรับจ้าง และแท็กซี่มิเตอร์ (2 กม. แรก 30 บาท กม.ต่อไป 4 บาท)

การเมืองการปกครอง

การปกครองส่วนภูมิภาค

แบ่งออกเป็น 20 อำเภอ 193 ตำบล 2412 หมู่บ้าน
  1. อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
  2. อำเภอเกษตรวิสัย
  3. อำเภอปทุมรัตต์
  4. อำเภอจตุรพักตรพิมาน
  5. อำเภอธวัชบุรี
  6. อำเภอพนมไพร
  7. อำเภอโพนทอง
  8. อำเภอโพธิ์ชัย
  9. อำเภอหนองพอก
  10. อำเภอเสลภูมิ
  1. อำเภอสุวรรณภูมิ
  2. อำเภอเมืองสรวง
  3. อำเภอโพนทราย
  4. อำเภออาจสามารถ
  5. อำเภอเมยวดี
  6. อำเภอศรีสมเด็จ
  7. อำเภอจังหาร
  8. อำเภอเชียงขวัญ
  9. อำเภอหนองฮี
  10. อำเภอทุ่งเขาหลวง
 แผนที่

การปกครองส่วนท้องถิ่น

อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
อำเภอเกษตรวิสัย
อำเภอปทุมรัตต์
อำเภอจตุรพักตรพิมาน
อำเภอพนมไพร
อำเภอธวัชบุรี
อำเภอโพนทอง
อำเภอเสลภูมิ
อำเภอโพธิ์ชัย
อำเภอหนองพอก
อำเภอสุวรรณภูมิ
อำเภอเมืองสรวง
อำเภอโพนทราย
อำเภออาจสามารถ
อำเภอเมยวดี
อำเภอศรีสมเด็จ
อำเภอจังหาร
อำเภอหนองฮี
อำเภอเชียงขวัญ
อำเภอทุ่งเขาหลวง

ประชากรในจังหวัด

      หมายถึงจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
      หมายถึงจำนวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
อันดับ
(ปีล่าสุด)
อำเภอในจังหวัดร้อยเอ็ดสิงหาคม พ.ศ. 2558[5]พ.ศ. 2557[6]พ.ศ. 2556[7]พ.ศ. 2555[8]พ.ศ. 2554[9]พ.ศ. 2553[10]พ.ศ. 2552[11]พ.ศ. 2551[12]
1เมืองร้อยเอ็ด156,842156,579156,409156,133155,693155,433155,114154,697
2เสลภูมิ121,663122,020122,095121,515120,281120,914120,734120,896
3สุวรรณภูมิ116,279116,364116,438116,425116,344116,695116,793116,917
4โพนทอง108,183108,138108,026107,869107,632107,838107,664107,569
5เกษตรวิสัย98,23698,31398,31298,34598,08498,90598,85698,888
6จตุรพักตรพิมาน80,27680,39980,50080,63880,50581,44481,35781,255
7อาจสามารถ74,28174,33174,37974,50474,33674,56874,49274,504
8พนมไพร72,89673,11673,28773,39473,38774,10974,16874,329
9ธวัชบุรี68,14868,08468,26868,37368,14068,22968,10467,799
10หนองพอก66,27366,10065,92365,68365,49865,43665,21465,037
11โพธิ์ชัย58,03057,92257,85557,80057,62057,60257,41057,300
12ปทุมรัตต์53,69953,68153,67153,68153,43053,36653,12353,080
13จังหาร46,32646,57946,89547,08547,07547,30447,36747,281
14ศรีสมเด็จ36,55236,65236,74936,86936,78636,94836,99136,964
15โพนทราย27,95128,00827,99928,00527,93527,83827,76527,658
16เชียงขวัญ27,62727,62127,76727,80227,77827,93327,88927,761
17หนองฮี24,71224,72224,78324,90524,95925,23925,31425,350
18ทุ่งเขาหลวง23,60823,62623,65523,64323,65023,86223,90123,975
19เมืองสรวง23,14523,10323,14323,19723,25923,38423,41323,481
20เมยวดี22,95022,89022,80422,70422,66622,66122,49022,471
รวม1,307,6771,308,3181,308,9581,308,5701,305,0581,309,7081,308,1591,307,212

ประชากรศาสตร์

มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,310,259 คน แยกเป็นชาย 654,508 คน หญิง 655,751 คน โดยมีอำเภอที่มีประชากรมากที่สุดได้แก่ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด 118,789 คน รองลงมาได้แก่ อำเภอเสลภูมิ มีจำนวน 108,063 คน และอำเภอสุวรรณภูมิ มีจำนวน 106,451 คน สำหรับอำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุด คือ อำเภอจังหาร โดยมีอัตราความหนาแน่น 295 คนต่อตารางกิโลเมตร รองลงมาได้แก่ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด มีอัตราความหนาแน่น 240 คนต่อตารางกิโลเมตร และอำเภอเชียงขวัญมีอัตราความหนาแน่น 215 คนต่อตารางกิโลเมตร โดยอัตราความหนาแน่นโดยเฉลี่ยของจังหวัดอยู่ในระดับ 158 คนต่อตารางกิโลเมตร
โดยประชากรมีกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
  • กลุ่มไทย-ลาว เป็นกลุ่มชนพื้นเมืองเดิม อาศัยทั่วไปในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด
  • กลุ่มไทย-เขมร เป็นคนที่อยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด แต่มีบรรพบุรุษที่มีเชื้อสายเขมร อยู่ในอำเภอสุวรรณภุมิ และเกษตรวิสัย
  • กลุ่มไทย-ส่วย เป็นคนที่อยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด มีเชื่อสายเป็นชาวส่วยหรือกูย อยู่บริเวณอำเภอสุวรรณภูมิ อำเภอปทุมรัตต์ และอำเภอโพนทราย ติดต่อกับจังหวัดศรีสะเกษ
  • กลุ่มภูไทหรือผู้ไทย เป็นกลุ่มที่ตั้งถิ่นฐานในเขตอำเภอเมยวดี หนองพอก ซึ่งติดต่อกับจังหวัดกาฬสินธุ์ ยโสธร และมุกดาหาร
  • กลุ่มไทย้อ เป็นกลุ่มที่มีเชื้อสายมาจากแขวงคำมวน ประเทศลาว อาศัยอยู่ในเขตอำเภอโพธิ์ชัย
นอกจากนั้นยังมีกลุ่มคนอพยพเข้ามาอาศัยในจังหวัดร้อยเอ็ดในภายหลัง ได้แก่ กลุ่มไทย-จีน กลุ่มไทย-ยวน กลุ่มไทย-แขก

การศึกษา

การศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ดได้ริเริ่มอย่างแบบตะวันตกนั้นได้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2453 โดยพระครูเอกุตรสตาธิคุณ (โมง) เจ้าอาวาสวัดศรีมงคล (ปัจจุบันคือวัดสระทอง) อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ตรงกับช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มขยายการศึกษาไปสู่หัวเมืองต่าง ๆ ในปี พ.ศ. 2454 รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้ราชบุรุษจันทร์มาเปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการที่วัดศรีมงคลโดยได้ตั้งชื่อว่า โรงเรียนวัดศรีมงคล ปลาย พ.ศ. 2456 จึงได้ย้ายมาทำการสอนที่อาคารที่ว่าการอำเภอเก่าริมคูเมือง พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนประจำมณฑลร้อยเอ็ด และตั้งเป็นโรงเรียนประจำมณฑลร้อยเอ็ด (ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์) ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย
เนื่องจากโรงเรียนประจำมณฑลร้อยเอ็ดเปิดสอนเฉพาะนักเรียนชาย จึงได้มีการจัดตั้งโรงเรียนประจำมณฑลหญิงขึ้นในปี พ.ศ. 2462 โดยได้แยกออกมาทำการเรียนการสอนบริเวณนอกคูเมืองทางทิศใต้ ซึ่งปัจจุบันคือ โรงเรียนสตรีศึกษา ต่อมารัฐก็ได้พยายามส่งเสริมการศึกษาระดับมัธยมศึกษามากขึ้น โดยได้จัดตั้งโรงเรียนวิสามัญประอำเภอจนครบทุกอำเภอในปี พ.ศ. 2513 จนกระทั่งปัจจุบันจังหวัดร้อยเอ็ดมีการจัดการศึกษาในทุกระดับการศึกษาทั้งระดับอุมศึกษา อาชีวศึกษา การศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษานอกโรงเรียน ทั้งในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ระดับอุดมศึกษา

สัญลักษณ์

บึงพลาญชัย

บึงพลาญชัยร้อยเอ็ด
บึงพลาญชัยตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองร้อยเอ็ด ถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด มีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางบึงน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 2 แสนตารางเมตร เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ตกแต่งเป็นสวนไม้ดอกขนาดใหญ่ มีพรรณไม้ต่าง ๆ ร่มรื่น และในบึงน้ำมีปลาชนิดต่าง ๆ หลายพันธุ์ มีเรือจักรยานน้ำและเรือพายไว้บริการประชาชนพายเล่นในบึง นอกจากนั้นยังใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลของจังหวัด รวมทั้งจัดมหรสพต่าง ๆ ภายในบึงพลาญชัยยังมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจคือ
  • ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นของคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวร้อยเอ็ดเคารพนับถือ และเชื่อว่าเจ้าพ่อจะช่วยดลบันดาลให้ชาวเมืองมีความสุข คิดสิ่งใดสมปรารถนา จึงเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ชาวเมืองร้อยเอ็ดจะพากันมากราบนมัสการขอพรเป็นประจำ
  • พระพุทธรูปปางลีลาขนาดใหญ่ กลางสวนดอกไม้
  • พานรัฐธรรมนูญ และนาฬิกาดอกไม้
  • ภูพลาญชัย มีลักษณะเป็นน้ำตกจำลอง และรูปปั้นสัตว์ต่าง ๆ คล้ายสวนสัตว์
  • สนามเด็กเล่น และ สวนสุขภาพ เป็นสวนออกกำลังกาย เพื่อให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย อันเป็นการเสริมสร้างพลานามัยแก่ชาวร้อยเอ็ด

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล
พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตั้งอยู่บริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม ตำบลโคกสว่าง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ระยะทางจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ 80 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็นการผสมกันระหว่างพระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม ใช้งบประมาณก่อสร้างถึงปัจจุบันกว่า 3,000 ล้านบาท ดำเนินการสร้างโดย “พระอาจารย์ศรี มหาวิโร” ซึ่งเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
พระมหาเจดีย์นี้ออกแบบโดยกรมศิลปากรเป็นสีขาวตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีทองเหลืองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ กว้าง 101 เมตร ยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร รวมยอดทองคำเป็น 109 เมตร ใช้ทองคำหนัก 4,750 บาท หรือประมาณ 60 กิโลกรัม ภายในองค์พระมหาเจดีย์เหมือนอยู่บนวิมานแดนสวรรค์
  • ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่ โอ่อ่า ผนังจารึกนามทานาธิบดีต่าง ๆ ใช้เป็นห้องประชุม บำเพ็ญบุญ
  • ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงโอ่อ่าเช่นกัน ผนังติดตั้งรูปพระพุทธประวัติ ลวดลาย ไทยวิจิตรพิสดาร
  • ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปพระณาจารย์ ปราชญ์อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลักหินอ่อน และหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์
  • ชั้นที่ 4 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัดวาอาราม สถานปฏิบัติสมถะวิปัสสนา กรรมฐานที่หลวงปู่ศรี เคยบำเพ็ญธรรมมา
  • ชั้นที่ 5 บันไดเวียน 119 ชั้น เป็นห้องโถงรูประฆัง 8 เหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ประเพณีบุญผะเหวด

ผ้าผะเหวด
เป็นบุญประเพณีที่มีการเทศน์มหาชาติเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดร้อยเอ็ด โดยเฉพาะจังหวัดได้กำหนดให้เป็นงานประเพณีประจำปีของจังหวัดและจัดได้ยิ่งใหญ่มากเป็นไปตามฮีต 12 คือหมายถึงเดือนสี่มีการทำบุญผะเหวดดังคำกล่าวไว้ในฮีตว่า
ฮีตหนึ่ง พอเถิงเดือนสี่ได้ให้เก็บดอกบุปผา หามาลา
ดวงหอมสู่ตนเก็บไว้
อย่าได้ไลคองนี้เสียศรีสูญเปล่า
หาเอาตากแดดไว้ได้ทำแท้สู่คน
อย่าได้ไลหนีเว้นแนวคองตั้งแต่เก่า
ไฟทั้งหลายสิแล่นเข้าเผาบ้านสิเสื่อมสูญเด้

ประเพณีบุญบั้งไฟสุวรรณภูมิ (ลายศรีภูมิ)

เป็นงานบุญประเพณีที่สำคัญของจังหวัด อีกหนึ่งงาน ที่มีการจัดอย่างต่อเนื่อง โดยมีเอกลักษณ์ คือ ประกวดแข่งขัน การเอ้ บั้งไฟ ประเภท ลายกรรไกรตัด หรือ "บั้งไฟลายศรีภูมิ" เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย โดย ทั่วไปพื้นที่อื่นๆ การตกแต่งตัวบั้งไฟ จะใช้ลายสับ ทั้งนี้ ในเขตเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ และอำเภอสุวรรณภูมิ มีช่างเอ้ ช่างตัดลายบั้งไฟที่มีชื่อเสียง และถ่ายทอดภูมิปัญญา มาไม่น้อยกว่า 100 ปี และที่ มีบันทึกทางวิชาการ ลวดลายกระดาษ โดยช่างมีฝีมือ ที่มีหลักฐานสืบต้นทางวิชาการ ที่มีพัฒนาการและนวัตกรรม การตัดลายกระดาษ "ลายศรีภูมิ" ระหว่าง 70 - 90 ปี และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานบั้งไฟลายศรีภูมิ นั้น เป็นที่ทราบกันดีของช่างบั้งไฟเอ้ ทั่วจังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดในภาคอีสาน ว่า งานประเพณีบุญบั้งไฟสุวรรณภูมิ เป็นงาน ที่รวบรวมช่างฝีมือการเอ้บั้งไฟและการตกแต่งเครื่องล่าง มาร่วมแข่งขันบั้งไฟเอ้สวยงามขนาดใหญ่ มากที่สุดในประเทศไทย โดย การจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟสุวรรณภูมิ จะจัดทุกวัน เสาร์ อาทิตย์แรก ของเดือนมิถุนายน ของทุกปี

ประเพณีบุญบั้งไฟพนมไพร

เป็นงานประเพณีที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ ในการจัดการแข่งขันบั้งไฟ และขบวนแห่ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี และมีการจัดตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ โดยยึดวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 เป็นการจัดงานในทุกปี และมีการจุดบั้งไฟถวย (ถวาย) องค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ ซึ่ง มีบั้งไฟแสน รวมบั้งไฟขนาดอื่นๆ จุดมากที่สุดในประเทศ

ทุ่งกุลาร้องไห้

ทุ่งกุลาร้องไห้
ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นที่ราบขนาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 2 ล้านไร่ อยู่ในเขตจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดร้อยเอ็ด การที่ได้ชื่อว่าทุ่งกุลาร้องไห้ มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า ชนเผ่ากุลาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยจากเมืองเมาะตะมะ ประเทศพม่า ได้เดินทางมาค้าขายผ่านทุ่งแห่งนี้ ต้องใช้เวลาเดินทางหลายวัน ไม่พบหมู่บ้านใด ๆ เลย น้ำก็ไม่มีดื่ม ต้นไม้ก็ไม่มีที่จะให้ร่มเงา มีแต่ทุ่งหญ้าเต็มไปหมด พื้นดินเป็นทราย เดินทางยากลำบากเหมือนอยู่กลางทะเลทราย ทำให้คนพวกนี้ถึงกับร้องไห้
ในอดีตทุ่งกุลาร้องไห้ในฤดูแล้ง พื้นที่ส่วนใหญ่จะแห้งแล้งมาก ส่วนในฤดูฝนน้ำจะท่วมทุกปี ใต้พื้นดินลงไปเป็นน้ำเค็ม ไม่สามารถทำการเกษตรได้ หลังจากที่ได้มีการพัฒนาที่ดินแล้ว ทุ่งกุลาร้องไห้ได้กลายเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สำคัญของประเทศ และกลายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่มีชื่อเสียงของไทย

บุคคลที่มีชื่อเสียง



[gmaps][/gmaps]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น